ถนัดวิชาไหน? TCAS67 เลือกเรียนอะไรดี #DEK67

PANYA SOCIETY

ถนัดวิชาไหน? TCAS67 เลือกเรียนอะไรดี #DEK67

ถนัดวิชาไหน? TCAS67 เลือกเรียนอะไรดี #DEK67

รู้จักตนเอง TCAS67 เลือกคณะอะไรดี

สวัสดีครับน้อง ๆ #Dek67 ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS67 นะครับ โดยวันนี้เราจะมาทำความรู้จักตนเองกันว่า TCAS67 เราจะเลือกเรียนคณะอะไรดี วันนี้พี่ Panya Society จะมาแนะนำว่าวิชาที่น้อง ๆ ถนัด ควรเลือกเรียนคณะอะไรดี เพื่อช่วยน้อง ๆ #Dek67 ในการตัดสินใจว่าจะเรียนอะไร เพื่อให้เรียนได้ง่ายขึ้นและมีโอกาสเรียนจบสูง ขอบอกเลยว่า #Dek67 ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน จำเป็นต้องรู้จักตนเอง เพื่อให้เตรียมตัวอ่านหนังสือได้ง่ายขึ้นในอีก 1 ปี และจะได้เลือกคณะที่อยากเรียนให้ตรงกับอาชีพที่อยากเป็น ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

คณิตศาสตร์

น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่ถนัดวิชาคณิตศาสตร์ แสดงว่า ถนัดในการคำนวณ รวมไปถึงการคิดอย่างมีตรรกะ คณะที่เน้นใช้วิชาคณิตศาสตร์และการคิดอย่างมีตรรกะ ได้แก่

คณะวิศวะกรรมศาสตร์ สาขา วิศวกรรมคอมพิวเตอร์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการเขียนโค้ด programming ซึ่งต้องใช้การคิดอย่างมีตรรกะเป็นอย่างมาก ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี / วิทยาศาสตร์ สาขา สถิติศาสตร์ / คณิตศาสตร์ประกันภัย

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการใช้หลักการทางสถิติในการวิเคราะห์และสรุปข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไป ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี / วิศวกรรมศาสตร์ / วิทยาการจัดการ / บริหารธุรกิจ สาขา โลจิสติกส์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบขนส่งซึ่งต้องใช้การคำนวณค่อนข้างมาก และยังต้องมีระบบการคิดอย่างมีตรรกะ ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี / บริหารธุรกิจ สาขา การบัญชี

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการบันทึกรายการทางการค้า เศรษฐศาสตร์ การวิเคราะห์งบประมาณการเงิน การตรวจสอบตัวเลขต่าง ๆ ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ สาขา คณิตศาสตร์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการสอนคณิตศาสตร์ การแนะแนว การวางแผนการสอน และประเมินการเรียนการสอน ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะเศรษฐศาสตร์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากร การวิเคราะห์ภาพรวมของระบบเศรษฐกิจ ระบบอุปสงค์-อุปทาน ถือเป็นคณะสายสังคมที่ต้องใช้การคำนวณค่อนข้างมาก ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

ฟิสิกส์

น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่ถนัดวิชาฟิสิกส์ แสดงว่า ถนัดในการคำนวณ การวิเคราะห์เกี่ยวกับปริมาณเชิงวิทยาศาสตร์กายภาพ เช่น แรง พลังงาน การเคลื่อนที่ เป็นต้น คณะที่เน้นใช้วิชาฟิสิกส์ ได้แก่

คณะวิศวะกรรมศาสตร์ แทบทุกสาขา

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการออกแบบโครงสร้างของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ การวางระบบไฟฟ้าและพลังงานอื่น ๆ การควบคุมดูแลหรือการสร้างเครื่องจักรต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับสาขาที่เรียน ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะแพทยศาสตร์ เอก จักษุแพทย์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการดูแลรักษาดวงตา ซึ่งถือเป็นแพทย์ที่ต้องมีความรู้ทางด้านฟิสิกส์มาก โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเลนส์และการเกิดภาพ ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะเทคนิคการแพทย์ สาขา รังสีเทคนิค

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ โดยเฉพาะในทางการแพทย์ ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ สาขา ฟิสิกส์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการสอนฟิสิกส์ การแนะแนว การวางแผนการสอน และประเมินการเรียนการสอน ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

เคมี

น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่ถนัดวิชาเคมี แสดงว่า มีความเข้าใจเกี่ยวกับธาตุและสารประกอบต่าง ๆ รวมไปถึงการเกิดปฏิกิริยาระหว่างธาตุและสารประกอบต่าง ๆ คณะที่เน้นใช้วิชาเคมี ได้แก่

คณะเภสัชศาสตร์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการโครงสร้างของยา การใช้ยาอย่างถูกวิธี รวมไปถึงผลข้างเคียงของยา ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขา วิศวกรรมเคมี

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการออกแบบเครื่องมือการผลิตในอุสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีให้มีประสิทธิภาพและอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะเทคนิคการแพทย์ สาขา เทคนิคการแพทย์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับทักษะในห้องปฏิบัติการ โดยเน้นการใช้สารเคมีในการตรวจพิสูจน์โรคหรือสารปนเปื้อนต่าง ๆ  ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ สาขา เคมี

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการสอนเคมี การแนะแนว การวางแผนการสอน และประเมินการเรียนการสอน ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

ชีววิทยา

น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่ถนัดวิชาชีววิทยา แสดงว่า มีความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของสิ่งมีชีวิต พฤติกรรมสิ่งมีชีวิต พันธุกรรม การจำแนกสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ คณะที่เน้นใช้วิชาชีววิทยา ได้แก่

คณะแพทยศาสตร์ / ทันตแพทยศาสตร์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการวินิจฉัยโรค โครงสร้างของร่างกาย การใช้ยาให้มีประสิททธิภาพและรู้ผลข้างเคียงของยา ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะพยาบาลศาสตร์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย การปฐมพยาบาล โครงสร้างของร่างกายเบื้องต้น ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

  • TGAT
  • A-Level วิทยาศาสตร์ประยุกต์
  • A-Level ชีววิทยา

คณะสัตวแพทยศาสตร์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการดูแลรักษาสัตว์ โครงสร้างของร่างกายสัตว์ เรียนรู้เกี่ยวกับยาของสัตว์ ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขา ชีวการแพทย์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ และอวัยวะเทียมต่าง ๆ   ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ สาขา ชีววิทยา

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการสอนชีววิทยา การแนะแนว การวางแผนการสอน และประเมินการเรียนการสอน ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

  • TGAT
  • TPAT5
  • A-Level ชีววิทยา

สังคมศึกษา

น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่ถนัดวิชาสังคมศึกษา แสดงว่า เป็นคนที่มีความสนใจในเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ศึกษากฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ มึความสนใจในระบบเศรษฐกิจ ลักษณะภูมิประเทศ ประวัติศาสตร์ หรือศาสนา คณะที่เน้นใช้วิชาสังคมศึกษา ได้แก่

คณะนิตติศาสตร์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับกฎหมาย การพิจารณาคดีในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยจะได้เห็นกรณีศึกษามากมาย ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะรัฐศาสตร์

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการเมืองและการปกครองทั้งในประเเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะมนุษยศาสตร์ 

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ประวัติศาสตร์โลก ศาสนา ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ สาขา สังคมศึกษา

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการสอนสังคมศึกษา การแนะแนว การวางแผนการสอน และประเมินการเรียนการสอน ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

ภาษาไทย

น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่ถนัดวิชาภาษาไทย แสดงว่า เป็นคนที่มีความสนใจในด้านการสื่อสาร การตีความประโยคหรือคำพูดต่าง ๆ การเขียน การสะกดคำ หลักภาษา คณะที่เน้นใช้วิชาภาษาไทย ได้แก่

คณะอักษรศาสตร์ / ศิลปศาสตร์ สาขา ภาษาไทย

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับวิวัฒนาการของภาษาไทย การใช้ภาษาไทยให้เหมาะสมและถูกต้องตามอักขรวิธี ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ สาขา ภาษาไทย

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการสอนภาษาไทย การแนะแนว การวางแผนการสอน และประเมินการเรียนการสอน ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

ภาษาอังกฤษ

น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่ถนัดวิชาภาษาอังกฤษ แสดงว่า เป็นคนที่มีความสนใจในด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ การเขียนและการสะกดคำอังกฤษ หรือหลักภาษา คณะที่เน้นใช้วิชาภาษาอังกฤษ ได้แก่

คณะอักษรศาสตร์ / ศิลปศาสตร์ สาขา ภาษาอังกฤษ

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับหลักการใช้ภาษาอังกฤษ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของภาษาอังกฤษ ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะท่องเที่ยวและการโรงแรม 

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการของโรงแรม และการสื่อสารภาษาสากล ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

คณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ สาขา ภาษาอังกฤษ

เป็นคณะที่เน้นเรียนเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษ การแนะแนว การวางแผนการสอน และประเมินการเรียนการสอน ซึ่งคะแนนที่อาจต้องใช้สมัครเรียน มีดังนี้

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับ #Dek67 ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะช่วยให้น้อง ๆ ได้รู้จักกับหลาย ๆ คณะที่เน้นในวิชาที่น้อง ๆ ถนัดแตกต่างกันไป แต่พี่ ๆ ต้องของบอกไว้ก่อนว่าข้อมูลข้างต้นที่นำมาเผยแพร่เป็นข้อมูลที่เป็นตัวอย่างแค่บางคณะเท่านั้น และบางคณะยังต้องถนัดหลายวิชาด้วย น้อง ๆ ต้องพิจารณาให้ดี ๆ กันอีกครั้งด้วยนะครับ ว่าจะเลือกเรียนคณะอะไร

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้แล้วว่าวิชาน้อง ๆ ถนัด เหมาะจะเรียนคณะอะไร สำหรับ TCAS67 นี้หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ ตัดสินใจเลือกเรียนได้ง่ายขึ้น และจะเห็นว่าแต่ละคณะ จะต้องใช้คะแนนสอบกลางในการคัดเลือกเข้าเรียน น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส “TCAS67 ทั้ง 6 วิชาจาก PANYA SOCIETY” ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS67 ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS67 จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

อาชีพมาแรงในอีก 5 ปี

แบบทดสอบบุคลิกภาพ MBTI

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

อาชีพมาแรงในอีก 5 ปี TCAS67 เลือกเรียนอะไรดี #DEK67

PANYA SOCIETY

อาชีพมาแรงในอีก 5 ปี TCAS67 เลือกเรียนอะไรดี #DEK67

อาชีพมาแรงในอีก 5 ปี TCAS67 เลือกเรียนอะไรดี #DEK67

รู้จักตนเอง TCAS67 เลือกคณะอะไรดี

สวัสดีครับน้อง ๆ #Dek67 ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS67 นะครับ โดยวันนี้เราจะมาทำความรู้จักตนเองกันว่า TCAS67 เราจะเลือกเรียนคณะอะไรดี วันนี้พี่ Panya Society จะมาแนะนำอาชีพมาแรงในอีก 5 ปี เพื่อช่วยน้อง ๆ #Dek67 ในการตัดสินใจว่าจะเรียนอะไร เพื่อให้จบมาแล้วมีงานทำสุดปัง ขอบอกเลยว่า #Dek67 ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน จำเป็นต้องรู้จักตนเอง เพื่อให้เตรียมตัวอ่านหนังสือได้ง่ายขึ้นในอีก 1 ปี และจะได้เลือกคณะที่อยากเรียนให้ตรงกับอาชีพที่อยากเป็น ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

1. สายแพทย์

มาถึงอาชีพที่ยังคงเป็นที่นิยม และยังคงขาดแคลนเป็นอย่างมาก ด้วยสถานการปัจจุบันที่มีโรคระบาด รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะสูง พี่เชื่อว่าน้อง ๆ #DEK67 หลาย ๆ คน ก็กำลังสนใจในอาชีพสายแพทย์นี้อยู่

สาเหตุที่ทำให้มาแรง : เนื่องจากมีโรคระบาด และสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะสูง จึงมีผู้ที่ล้มป่วยมาก ทำให้อาชีพสายแพทย์ยังคงขาดแคลน 

ลักษณะงาน / อาชีพ : เป็นอาชีพที่ต้องคอยตรวจและรักษาผู้ป่วย สั่งยา และให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ตัวอย่างอาชีพสายแพทย์ได้แก่

  • แพทย์
  • ทันตแพทย์
  • เภสัชกร

เงินเดือนโดยประมาณ : 40,000 – 350,000 บาท

คณะที่ควรเลือกเรียน : 

  • คณะแพทยศาสตร์
  • คณะทันตแพทยศาสตร์
  • คณะเภสัชศาสตร์

คะแนนที่อาจต้องใช้ในการเข้าเรียน : 

2. สายวิศกรคอมพิวเตอร์

โลกของเรากำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่กำลังสนใจทางด้านเทคโนโลยี การเขียนโปรแกรม การเรียนทางสายนี้ถือได้ว่าน่าสนใจมาก ๆ มีงานรองรับหลากหลายด้าน เช่น การพัฒนา AI การเขียน Application การเขียนเว็ปไซต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

สาเหตุที่ทำให้มาแรง : โลกกำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้อาชีพสายวิศวกรคอมพิวเตอร์เป็นที่ต้องการมาก

ลักษณะงาน / อาชีพ : เป็นอาชีพที่เน้นในการเขียนโค้ด programming ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ตัวอย่างอาชีพสายวิศวกรคอมพิวเตอร์ ได้แก่

  • นักพัฒนาเว็ปไซต์
  • นักพัฒนา AI
  • นักพัฒนาแอปพลิเคชัน

เงินเดือนโดยประมาณ : 25,000 – 300,000 บาท

คณะที่ควรเลือกเรียน : 

  • คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขา วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
  • คณะวิทยาศาสตร์ สาขา คอมพิวเตอร์
  • คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ สาขา เทคโนโลยีสารสนเทศ

คะแนนที่อาจต้องใช้ในการเข้าเรียน : 

3. นักสถิติ

ในยุคสมัยปัจจุบันที่เต็มไปด้วยข้อมูลต่าง ๆ มากมาย น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่กำลังสนใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ การเลือกเรียนเกี่ยวกับสถิติก็น่าสนใจมาก ๆ  เช่นกัน และกำลังเป็นที่ต้องการมาก ๆ อีกด้วย

สาเหตุที่ทำให้มาแรง : ในปัจจุบันมีการเก็บข้อมมูลต่าง ๆ ไว้มากมาย เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์หาแนวทางในการตัดสินใจต่าง ๆ มากมาย เช่น การตลาด การทำผลิตภัณฑ์ หรือการตัดสินใจอื่น ๆ อีกมากมาย นักสถิติจึงเป็นที่ต้องการมาก

ลักษณะงาน / อาชีพ : เป็นอาชีพที่เน้นในการนำข้อมูลที่มีอยู่ มาทำการวิเคราะห์เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจกระทำการต่าง ๆ ต่อไป ตัวอย่างอาชีพนักสถิติ ได้แก่

  • นักวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
  • นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล
  • นักคณิตศาสตร์ประกันภัย

เงินเดือนโดยประมาณ : 25,000 – 150,000 บาท

คณะที่ควรเลือกเรียน : 

  • คณะสหเวชศาสตร์ / บัญชี สาขา สถิติศาสตร์
  • คณะวิทยาศาสตร์ สาขา คณิตศาสตร์สถิติ
  • คณะวิทยาศาสตร์ สาขา คณิตศาสตร์ประกันภัย

คะแนนที่อาจต้องใช้ในการเข้าเรียน : 

4. นักการตลาดดิจิทัล

ในปัจจุบันผู้คนนิยมใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ในการเข้าถึงสื่อ social media เป็นจำนวนมาก น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่กำลังสนใจเกี่ยวกับการตลาด ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่กำลังมาแรงเช่นกัน

สาเหตุที่ทำให้มาแรง : ในการทำธุรกิจต่าง ๆ นักการตลาดถือเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่สำคัญมาก และในยุคดิจิทัลนี้ นักการตลาดที่มาแรงก็ต้องเป็นนักการตลาดดิจิทัลอย่างแน่นอน

ลักษณะงาน / อาชีพ : เป็นอาชีพที่เน้นการใช้สื่อออนไลน์ต่าง ๆ ในการเข้าถึง และสื่อสารกับลูกค้า ให้มาเลือกใช้บริการ หรือซื้อสินค้าต่าง ๆ ตัวอย่างอาชีพนักการตลาดดิจิทัลได้แก่

  • นักวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด
  • นักการตลาดดิจิทัล
  • ผู้เชี่ยวชาญการทำ seo

เงินเดือนโดยประมาณ : 20,000 – 100,000 บาท

คณะที่ควรเลือกเรียน : 

  • คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขา การตลาด
  • คณะบริหารธุรกิจ สาขา การตลาด
  • คณะวิทยาการจัดการ สาขา การตลาด
  • คณะนิเทศศาสตร์ สาขา สื่อสารการตลาด

คะแนนที่อาจต้องใช้ในการเข้าเรียน : 

5. นักโลจิสติกส์

ในปัจจุบันการค้าขายออนไลน์กำลังเป็นที่นิยม การจัดการกับระบบขนส่งจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่กำลังสนใจเกี่ยวกับการขนส่ง ก็ขอแนะนำอาชีพเกี่ยวกับโลจิสติกส์ได้เลย

สาเหตุที่ทำให้มาแรง : เนื่องจากผู้คนหันมาสนใจการค้าขายออนไลน์มากขึ้น จึงต้องมีการขนส่งสินค้าเป็นจำนวนมาก จึงมีบริษัทขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ทำให้อาชีพนักโลจิสติกส์เป็นที่ต้องการมากไปด้วย

ลักษณะงาน / อาชีพ : เป็นอาชีพที่เน้นการบริหารจัดการระบบขนส่งต่าง ๆ ตั้งแต่คลังสินค้าไปจนถึงการขนส่งให้ถึงปลายทาง เพื่อให้การขนส่งมีประสิทธิภาพ และใช้ต้นทุนนน้อยที่สุด ตัวอย่างอาชีพนักโลจิสติกส์ได้แก่

  • ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติก
  • ผู้จัดการคลังสินค้า
  • นักวิเคราะห์ด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน

เงินเดือนโดยประมาณ : 20,000 – 100,000 บาท

คณะที่ควรเลือกเรียน : 

  • คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขา โลจิสติกส์
  • คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขา วิศวกรรมโลจิสติกส์
  • คณะวิทยาการจัดการ สาขา การจัดการโลจิสติกส์
  • คณะบริหารธุรกิจ สาขา การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน

คะแนนที่อาจต้องใช้ในการเข้าเรียน : 

6. วิศวกรพลังงาน

โลกในปัจจุบันกำลังเข้าสู่วิกฤตด้านพลังงาน ทำให้ต้องการผู้ที่เชี่ยวชาญด้านพลังงานเป็นจำนวนมาก น้อง ๆ #DEK67 คนไหนที่อยากเป็นวิศวกร ก็ลองพิจารณาวิศวกรพลังงานกันได้เลย

สาเหตุที่ทำให้มาแรง : เนื่องจากแหล่งพลังงานจากธรรมชาติกำลังจะหมดไป จึงจำเป็นต้องหาพลังงานทดแทน และต้องใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำให้วิศวกรพลังงานเป็นที่ต้องการมาก

ลักษณะงาน / อาชีพ : เป็นอาชีพที่เน้นการจัดการการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ค้นหาพลังงานทดแทน และอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อม ตัวอย่างอาชีพวิศวกรพลังงานได้แก่

  • ผู้จัดการการใช้พลังงานในโรงงาน
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์พลังงาน
  • ผู้ตรวจวัดและวิเคราะห์ด้านพลังงาน

เงินเดือนโดยประมาณ : 20,000 – 80,000 บาท

คณะที่ควรเลือกเรียน : 

  • คณะวิศวกรรมศาตร์ สาขา วิศวกรรมพลังงาน

คะแนนที่อาจต้องใช้ในการเข้าเรียน : 

7. สถาปนิก

ปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีมากมายมาใช้พัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ให้กลายเป็นบ้านอัจฉริยะ #DEK67 คนไหนที่อยากเป็นสถาปนิก ก็ควรจะต้องศึกษาวิธีออกแบบบ้านอัจฉริยะไว้ เพื่อรองรับตัวเลือกในการสร้างบ้านในอนาคต

สาเหตุที่ทำให้มาแรง : เนื่องจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านเริ่มมีความล้ำสมัยมากขึ้น จึงต้องการนักออกแบบบ้านให้มีความเข้ากันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป และยังต้องประหยัดพลังงานอีกด้วย

ลักษณะงาน / อาชีพ : เป็นอาชีพที่เน้นการออกแบบอาคารหรือบ้าน ให้มีความสวยงาม เข้ากับสภาพแวดล้อม และเหมาะกับการใช้งาน ตัวอย่างอาชีพสถาปนิกได้แก่

  • นักออกแบบบ้านอัจฉริยะ
  • ผู้ออกแบบการใช้พลังงานในอาคาร
  • ผู้ตรวจสอบมาตรฐานและความปลอดภัยของอาคาร

เงินเดือนโดยประมาณ : 15,000 – 80,000 บาท

คณะที่ควรเลือกเรียน : 

  • คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

คะแนนที่อาจต้องใช้ในการเข้าเรียน : 

8. นักกฎหมาย

ในปัจจุบันมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทำต่าง ๆ ในโลกออนไลน์มากขึ้น เช่น พรบ. คอมพิวเตอร์ เป็นต้น #DEK67 คนไหนที่อยากเป็นนักกฎหมาย ก็ควรจะต้องศึกษา พรบ. คอมพิวเตอร์ไว้ด้วย

สาเหตุที่ทำให้มาแรง : เนื่องจากในปัจจุบันเพียงแค่พิมพ์ โพส หรืออัดคลิปลง social media ก็เกิดการฟ้องร้องกันได้ง่าย ๆ แล้ว นักกฎหมายจึงเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีความสำคัญในปัจจุบันเช่นกัน 

ลักษณะงาน / อาชีพ : เป็นอาชีพที่ให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมาย ทั้งกับบุคคลทั่วไป รวมไปถึงองค์กรณ์ต่าง ๆ และยังสามารถทำงานในศาลได้อีกด้วย ตัวอย่างอาชีพนักกฎหมายได้แก่

  • ทนายความ
  • ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
  • อัยการ
  • ผู้พิพากษา

เงินเดือนโดยประมาณ : 15,000 – 80,000 บาท

คณะที่ควรเลือกเรียน : 

  • คณะนิติศาสตร์

คะแนนที่อาจต้องใช้ในการเข้าเรียน : 

9. นักกายภาพบำบัด

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้นักกายภาพบำบัดเป็นที่ต้องการมากขึ้น #DEK67 คนไหนที่อยากดูแลผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ก็เลือกเรียนได้เลย

สาเหตุที่ทำให้มาแรง : เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้อยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้นักกายภาพบำบัดเป็นที่ต้องการมาก

ลักษณะงาน / อาชีพ : เป็นอาชีพที่เน้นในการช่วยเหลือผู้ที่ดูและตัวเองไม่ค่อยได้ ให้กลับมาช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น รวมไปถึงการช่วยให้อาการเจ็บปวดร่างกายต่าง ๆ ลดลงอีกด้วย ตัวอย่างอาชีพนักกายภาพบำบัดได้แก่

  • ผู้ดูแลผู้สูงอายุ
  • นักกายภาพบำบบัดด้านกระดูกและกล้ามเนื้อ
  • นักกายภาพบำบบัดด้านระบบประสาท

เงินเดือนโดยประมาณ : 15,000 – 60,000 บาท

คณะที่ควรเลือกเรียน : 

  • คณะสหเวชศาสตร์ สาขา กายภาพบำบัด
  • คณะเทคนิคการแพทย์ สาขา กายภาพบำบัด
  • คณะกายภาพบำบัด

คะแนนที่อาจต้องใช้ในการเข้าเรียน : 

10. สัตวแพทย์

ในปัจจุบันคนไทยอยากมีลูกกันน้อยลง ทำให้คนหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้น อาชีพสัตวแพทย์จึงเป็นหนึ่งในอาชีพที่น่าสนใจ #DEK67 คนไหนที่มีความรักสัตว์ก็สามารถเลือกเรียนได้

สาเหตุที่ทำให้มาแรง : เนื่องจากคนไทยอยากมีลูกกันน้อยลง ทำให้หันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้น สัตวแพทย์จึงมีโอกาสที่จะเป็นอาชีพที่มาแรงได้

ลักษณะงาน / อาชีพ : เป็นอาชีพที่เน้นในการดูแลรักษาสัตว์ต่าง ๆ ตั้งแต่สัตว์เลี้ยงไปจนถึงสัตว์ใหญ่ ตัวอย่างอาชีพสัตวแพทย์ได้แก่

  • สัตวแพทย์ประจำคลินิก
  • สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์
  • สัตวแพทย์ประจำกรมปศุสัตว์

เงินเดือนโดยประมาณ : 15,000 – 40,000 บาท

คณะที่ควรเลือกเรียน : 

  • คณะสัตวแแพทย์ศาสตร์

คะแนนที่อาจต้องใช้ในการเข้าเรียน : 

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับ #Dek67 ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะช่วยให้น้อง ๆ ได้รู้จักกับหลาย ๆ อาชีพกันพอสมควรแล้วนะครับ แต่พี่ ๆ ต้องของบอกไว้ก่อนว่าข้อมูลข้างต้นที่นำมาเผยแพร่เป็นข้อมูลที่เป็นค่าประมาณ และเป็นเพียงการคาดการจากข้อมูลที่รวมรวมมาเท่านั้น น้อง ๆ ต้องพิจารณาให้ดี ๆ กันอีกครั้งด้วยนะครับ

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้จักกับ 10 อาชีพมาแงในอีก 5 ปีข้างหน้าแล้ว TCAS67 นี้หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ ตัดสินใจเลือกเรียนได้ง่ายขึ้น และจะเห็นว่าแต่ละอาชีพ จะต้องใช้คะแนนสอบกลางในการคัดเลือกเข้าเรียนในคณะที่ตรงสาย น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส “TCAS67 ทั้ง 6 วิชาจาก PANYA SOCIETY” ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS67 ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS67 จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

เกณฑ์การคิดคะแนน TCAS67

ถนัดวิชาไหน? TCAS67

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

เกณฑ์การคิดคะแนน TCAS67 คะแนนขั้นต่ำ 10 คณะยอดฮิต ใช้คะแนนอะไรบ้าง

PANYA SOCIETY

เกณฑ์การคิดคะแนน TCAS67 คะแนนขั้นต่ำ 10 คณะยอดฮิต ใช้คะแนนอะไรบ้าง

เกณฑ์การคิดคะแนน TCAS67 คะแนนขั้นต่ำ 10 คณะยอดฮิต ใช้คะแนนอะไรบ้าง

รู้จักตนเอง TCAS67 เลือกคณะอะไรดี

สวัสดีครับน้อง ๆ #Dek67 ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS67 นะครับ โดยวันนี้เราจะมาทำความรู้จักตนเองกันว่า TCAS67 เราจะเลือกเรียนคณะอะไรดี วันนี้พี่ Panya Society จะมาแนะนำ 10 คณะยอดฮิตแต่ละสาย ว่ามีคะแนนขั้นต่ำเท่าไร และใช้คะแนนอะไรบ้าง ขอบอกเลยว่า #Dek67 ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน จำเป็นต้องรู้จักตนเอง เพื่อให้เตรียมตัวอ่านหนังสือได้ง่ายขึ้นในอีก 1 ปี และจะได้เลือกคณะที่อยากเรียนให้ตรงกับอาชีพที่อยากเป็น ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!..

1. คณะสายแพทย์

คณะสายแพทย์ทั้ง แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ ของ กสพท ถือเป็นหนึ่งในคณะในฝันของน้อง ๆ #Dek67 หลาย ๆ คน และเป็นคณะที่มีการแข่งขันสูงมาก พี่ Panya Society ขอหยิบเอาคะแนนของ 2 คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาให้น้อง ๆ ดูกัน 

  • เกณฑ์การคิดคะแนน กสพท : 

    – TPAT1 : 30%

    – A-Level ฟิสิกส์ + เคมี + ชีวะ : 28%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : 14%

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : 14%

    – A-Level ภาษาไทย : 7%

    – A-Level สังคมศึกษา : 7%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – A-Level ฟิสิกส์ + เคมี + ชีวะ : รวมกันไม่น้อยกว่า 90 คะแนน

    – A-Level วิชาอื่น ๆ : ไม่น้อยกว่า 30 คะแนน 

    – ทันตแพทย์ศาสตร์ ต้องเรียนสายวิทย์ – คณิต
.

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 68.8425 คะแนน (ปี 66)
    .

คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 72.8402 คะแนน (ปี 66)

2. คณะวิศวกรรมศาสตร์

คณะวิศกรรมศาสตร์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งในคณะที่น้อง ๆ #Dek67 หลาย ๆ คนอยากจะเข้าเรียน พี่ Panya Society ขอหยิบเอาคะแนนของ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาให้น้อง ๆ ดูกัน 

คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

  • เกณฑ์การคิดคะแนน

    – TGAT : 20%

    – TPAT3 : 25%

    – A-Level ฟิสิกส์ : 30%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : 25%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – เรียนสายวิทย์ – คณิต หรือ ป.ว.ช. สายช่างอุตสาหกรรม

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 64.3819 คะแนน (ปี 66)
    .

 คณะวิศวกรรมไฟฟ้า  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

  • เกณฑ์การคิดคะแนน

    – เกรดเฉลี่ยคณิตศาสตร์ : 10%

    – เกรดเฉลี่ยวิทยาศาสตร์ : 10%

    – เกรดเฉลี่ยภาษาต่างประเทศ : 10%

    – TGAT : 20%

    – TPAT3 : 50%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – เกรดเฉลี่ยคณิตศาสตร์ : ไม่ต่ำกว่า 3.00

    – เกรดเฉลี่ยวิทยาศาสตร์ : ไม่ต่ำกว่า 3.00

    – เกรดเฉลี่ยภาษาต่างประเทศ : ไม่ต่ำกว่า 2.75

    – เรียนสายวิทย์ – คณิต (ไม่รับอาชีวะ)

    – ไม่มีภาวะตาบอดสี

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 74.6276 คะแนน (ปี 66)

3. คณะเทคนิคการแพทย์ / พยาบาลศาสตร์

คณะสายสุขภาพนอกเหนือจาก กสพท อย่างเทคนิคการแพทย์ และพยาบาล ก็ถือเป็นอีกหนึ่งในคณะที่น้อง ๆ #Dek67 หลาย ๆ คนอยากจะเข้าเรียน พี่ Panya Society ขอหยิบเอาคะแนนของ 2 คณะสายผู้ช่วยแพทย์  มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาให้น้อง ๆ ดูกัน 

คณะสหเวชศาสตร์ สาขา รังสีเทคนิค มหวิทยาลัยนเรศวร

  • เกณฑ์การคิดคะแนน

    – TGAT : 30%

    – A-Level ฟิสิกส์ : 25%

    – A-Level ชีววิทยา : 25%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : 20%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – A-Level ทั้ง 3 วิชา : ไม่ต่ำกว่า 25 คะแนน

    – เรียนสายวิทย์ – คณิต (ไม่รับหลักสูตรนานาชาติ)

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 41.7081 คะแนน (ปี 66)
    ..

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบดี สาขา พยาบาลศาสตร์ มหวิทยาลัยมหิดล

  • เกณฑ์การคิดคะแนน

    – TGAT : 25%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : 20%

    – A-Level วิทยาศาสตร์ประยุกต์ : 25%

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : 30%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – TGAT : ไม่ต่ำกว่า 25 คะแนน

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : ไม่ต่ำกว่า 20 คะแนน

    – A-Level วิทยาศาสตร์ประยุกต์ : ไม่ต่ำกว่า 20 คะแนน

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : ไม่ต่ำกว่า 30 คะแนน

    – เกรดเฉลี่ย คณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา และภาษาอังกฤษ ไม่ต่ำกว่า 2.75

    – เรียนสายวิทย์ – คณิต (ไม่รับหลักสูตรนานาชาติ)

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 50.0068 คะแนน (ปี 66)

4. คณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์

อีกหนึ่งคณะที่น้อง ๆ #Dek67 ที่ชอบในการสอนอยากจะเข้าเรียนก็คือ คณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ พี่ Panya Society ขอหยิบเอาคะแนนของ 2 คณะสายการสอน มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาให้น้อง ๆ ดูกัน 

คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกจิตวิทยาและการแนะแนว มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

  • เกณฑ์การคิดคะแนน

    – TGAT : 45%

    – TPAT5 : 45%

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : 10%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – TGAT : ไม่น้อยกว่า 35 คะแนน

    – TPAT5 : ไม่น้อยกว่า 35 คะแนน

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : ไม่น้อยกว่า 30 คะแนน

    – เรียนสายสามัญ หรือหลักสูตรนานาชาติ

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 70.8998 คะแนน (ปี 66)
    ..

คณะครุศาสตร์ ประถมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  • เกณฑ์การคิดคะแนน (เลือกสอบสังคมศึกษา)

    – TGAT : 20%

    – TPAT5 : 30%

    – A-Level สังคมศึกษา : 25%

    – A-Level ภาษาไทย : 25%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 70.3888 คะแนน (ปี 66)

5. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

มาถึงคณะที่ต้องใช้ความรู้ทั้งสายวิท์และสายศิลป์ อย่างคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ซึ่งก็เป็นคณะที่ #Dek67 หลาย ๆ คนอยากเข้า พี่ Panya Society ขอหยิบเอาคะแนนของ 2 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาให้น้อง ๆ ดูกัน 

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

  • เกณฑ์การคิดคะแนน

    – GPAX : 20%

    – TGAT : 10%

    – TPAT4 : 40%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 + ฟิสิกส์ + ภาษาอังกฤษ : 30%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – TGAT : ไม่ต่ำกว่า 20 คะแนน

    – TPAT4 : ไม่ต่ำกว่า 30 คะแนน

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : ไม่ต่ำกว่า 20 คะแนน

    – A-Level ฟิสิกส์ : ไม่ต่ำกว่า 20 คะแนน

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : ไม่ต่ำกว่า 20 คะแนน

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 68.5694 คะแนน (ปี 66)
    ..

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

  • เกณฑ์การคิดคะแนน 

    – TGAT : 15%

    – TPAT4 : 40%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : 15%

    – A-Level ฟิสิกส์ : 15%

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : 15%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.5

    – กำลังเรียนหรือจบ ม.6 หรือเทียบเท่า (ไม่รับ ก.ศ.น. และ GED)

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 58.9649 คะแนน (ปี 66)

6. คณะบัญชี / บริหาร

อีกหนึ่งคณะที่กำลังมาแรงสำหรับคนที่ชอบตัวเลขและการทำธุรกิจ ก็คือ คณะบัญชีและบริหาร ซึ่งน้อง ๆ #Dek67 หลาย ๆ คนยังคงให้ความสนใจ พี่ Panya Society ขอหยิบเอาคะแนนของ 2 คณะบัญชีและบริหาร มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาให้น้อง ๆ ดูกัน 

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาสถิติและวิทยาการข้อมูล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  • เกณฑ์การคิดคะแนน

    – TGAT : 50%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : 50%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – ไม่จำกัดสายการเรียน และคะแนนขั้นต่ำ

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 60.8055 คะแนน (ปี 66)
    ..

คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

  • เกณฑ์การคิดคะแนน 

    – GPAX : 100%

  • เงื่อนไขการรับ : 

    – ไม่จำกัดสายการเรียน และคะแนนขั้นต่ำ

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 53.5000 คะแนน (ปี 66)

7. คณะนิเทศศาสตร์

เรามาดูคณะทางสายศิลป์กันบ้าง คณะแรกที่เป็นที่นิยมก็คือ คณะนิเทศศาสตร์ #Dek67 หลาย ๆ คน ก็ใฝ่ฝันอยากเข้าคณะนี้ พี่ Panya Society ขอหยิบเอาคะแนนของ 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาให้น้อง ๆ ดูกัน 

คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  • เกณฑ์การคิดคะแนน

    – TGAT : 40%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 2 : 60%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – GPAX : ไม่ต่ำกว่า 2.5

    – TGAT : ไม่ต่ำกว่า 40 คะแนน

    – A-Level คณิตศาสตร์ 2 : ไม่ต่ำกว่า 25 คะแนน

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 85.2664 คะแนน (ปี 66)
    ..

คณะคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

  • เกณฑ์การคิดคะแนน 

    – TGAT : 10%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 2 : 20%

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : 25%

    – A-Level สังคมศึกษา : 25%

    – A-Level ภาษาไทย : 20%

  • เงื่อนไขการรับ : 

    – ไม่รับผู้ที่จบ ร.ร. หลักสูตรนานาชาติ หรือ GED

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 66.4069 คะแนน (ปี 66)

8. คณะมนุษยศาสตร์/ อักษรศาสตร์

อีกคณะทางสายศิลป์ สำหรับ #Dek67 ที่ชอบทางด้านภาษาและวัฒนธรรม พี่ Panya Society ขอหยิบเอาคะแนนของ 2 คณะสายภาษาและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาให้น้อง ๆ ดูกัน 

คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  • เกณฑ์การคิดคะแนน

    – A-Level คณิตศาสตร์ 2 : 25%

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : 25%

    – A-Level สังคมศึกษา : 25%

    – A-Level ภาษาไทย : 25%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – GPAX : ไม่ต่ำกว่า 2.75

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 76.5625 คะแนน (ปี 66)
    ..

คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

  • เกณฑ์การคิดคะแนน : 

    – GPAX : 20%

    – TGAT : 30%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 2 : 20%

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : 10%

    – A-Level สังคมศึกษา : 10%

    – A-Level ภาษาไทย : 10%

  • เงื่อนไขการรับ : 

    – ไม่จำกัดสายการเรียน และคะแนนขั้นต่ำ

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 62.2833 คะแนน (ปี 66)

9. คณะนิติศาสตร์ / รัฐศาสตร์

เอาใจสายสังคมกันบ้างกับคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ สำหรับ #Dek67 ที่ชอบทางสังคม พี่ Panya Society ขอหยิบเอาคะแนนของ 2 คณะสายสังคม มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาให้น้อง ๆ ดูกัน 

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

  • เกณฑ์การคิดคะแนน : 

    – TGAT1 : 35%

    – TGAT2 : 35%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : 30%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – ไม่จำกัดสายการเรียน และคะแนนขั้นต่ำ

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 63.1081 คะแนน (ปี 66)
    ..

คณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  • เกณฑ์การคิดคะแนน 

    – TGAT : 20%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 2 : 20%

    – A-Level ภาษาอังกฤษ : 30%

    – A-Level สังคมศึกษา : 30%

  • เงื่อนไขการรับ : 

    – GPAX : ไม่ต่ำกว่า 2.50

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 62.8500 คะแนน (ปี 66)

10. คณะเกษตร / เทคโนโลยีอาหาร

มาดูสายเกษตรกันบ้าง อย่างคณะเกษตรและเทคโนโลยีอาหาร สำหรับ #Dek67 ที่สนใจในด้านอุตสาหกรรมอาหาร พี่ Panya Society ขอหยิบเอาคะแนนของ 2 คณะสายเกษตรและเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยชื่อดัง มาให้น้อง ๆ ดูกัน 

คณะเกษตร สาขาโภชนาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

  • เกณฑ์การคิดคะแนน

    – GPAX : 20%

    – TGAT : 30%

    – TPAT3 : 10%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : 10%

    – A-Level ฟิสิกส์ : 10%

    – A-Level เคมี : 10%

    – A-Level ชีววิทยา : 10%

  • เงื่อนไขการรับ :

    – เรียนสายวิทย์ – คณิต

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 52.7131 คะแนน (ปี 66)
    ..

คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร สาขาเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

  • เกณฑ์การคิดคะแนน : 

    – GPAX : 50%

    – TGAT : 10%

    – TPAT3 : 30%

    – A-Level คณิตศาสตร์ 1 : 10%

  • เงื่อนไขการรับ : 

    – เรียนสายสามัญ

  • คะแนนรอบ Admission ต่ำสุด : 53.6998 คะแนน (ปี 66)

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับ #Dek67 ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะตอบคำถามที่น้อง ๆ หลายคนสงสัยกันได้พอสมควรแล้วนะครับ แต่พี่ ๆ ต้องของบอกไว้ก่อนว่าข้อมูลข้างต้นที่นำมาเผยแพร่เป็นข้อมูลที่อ้างอิงจากปีก่อนหน้า ทำให้ข้อมูลอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ในอนาคต โดยทางทปอ.จะมีการแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ๆ ดังนั้นน้อง ๆ ควรต้องติดตามข่าวสารกันอย่างใกล้ชิด หรือจะติดตามจากทาง Panya Society ไว้ก็ได้ ถ้ามีข้อมูลอะไรอัพเดท พี่ ๆ จะรีบนำมาแจ้งให้น้อง ๆ ทุกทราบโดยเร็ว

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้จักกับ 10 คณะยอดฮิต TCAS67 หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ ตัดสินใจเลือกเรียนได้ง่ายขึ้น และจะเห็นว่าแต่ละคณะ จะต้องใช้คะแนนสอบกลางในการคัดเลือก และต้องมีคะแนน TCAS67 ค่อนข้างสูง น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส TCAS67 ทั้ง 6 วิชาจาก PANYA SOCIETY ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS67 ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS67 จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

ปฏิทิน TCAS67

อาชีพมาแรงในอีก 5 ปี

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

TCAS67 มีข้อสอบอะไรบ้าง เรื่องที่ #dek67 ต้องรู้

PANYA SOCIETY

TCAS67 มีข้อสอบอะไรบ้าง เรื่องที่ #dek67 ต้องรู้

TCAS67 มีข้อสอบอะไรบ้าง เรื่องที่ #dek67 ต้องรู้

ทำความรู้จักข้อสอบ TCAS67

สวัสดีครับน้อง ๆ #Dek67 ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS67 นะครับ โดยวันนี้เราจะมาดูกันว่าข้อสอบ TCAS67 มีข้อสอบอะไรบ้าง พี่ Panya Society ขอบอกเลยว่า #Dek67 ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน จำเป็นต้องรู้ว่า TCAS67 มีข้อสอบอะไรบ้าง เพื่อให้พร้อมสอบได้ทันในอีก 1 ปี ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

ข้อสอบ TCAS67

MENU

TGAT

สำหรับข้อสอบ TCAS67 หนึ่งในข้อสอบที่น้อง ๆ จะเจอก็คือ TGAT : ความถนัดทั่วไป (Thai General Apititude Test) ซึ่งแบ่งการสอบเป็น 3 ส่วน โดยสามารถเลือกสอบเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ แต่พี่ Panya Society แนะนำให้น้อง ๆ ลงสอบไว้ทั้ง 3 ส่วน เพราะส่วนมากจะใช้คะแนน TGAT รวม เป็นเกณฑ์การคิดคะแนน

รูปแบบการสอบ : เลือกแบบคอมพิวเตอร์ หรือแบบกระดาษ

สนามสอบ : เลือกได้ 5 อันดับ

ซึ่งข้อสอบ TGAT ทั้ง 3 ส่วน มีดังนี้   

TGAT1 : การสื่อสารภาษาอังกฤษ

   จำนวนข้อ : 60 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 60 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 4 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ โดยจะเน้นไปที่การสื่อสารเป็นหลัก ลักษณะโจทย์จะเป็นบทสนนา การเติมเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ และการอ่านจับใจความ แบ่งเป็น 2 ด้าน

                       1.) ทักษะการพูด (Speaking Skill)

                       2.) ทักษะการอ่าน (Reading Skill)
  

TGAT2 : การคิดอย่างมีเหตุผล

   จำนวนข้อ : 80 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 60 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดทักษะการคิด การจินตณาการ การหาความสัมพันธ์ และวัดตรรกะ และด้วยจำนวนข้อสอบที่เยอะแต่กลับมีเวลาทำน้อย จึงถือเป็น speed test เช่นกัน ข้อสอบแบ่งเป็น 4 ด้าน

                       1.) ความสามารถทางภาษา

                       2.) ความสามารถทางตัวเลข

                       3.) ความสามารถทางมิติสัมพันธ์

                       4.) ความสามารถทางเหตุผล
  

TGAT3 : สมรรถนะการทำงาน

   จำนวนข้อ : 60 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 60 นาที

   รูปแบบข้อสอบ :

                        แบบที่ 1 : ข้อสอบ 1 ข้อ มี 4 ตัวเลือก โดยเลือกตอบได้หลายตัวเลือก ให้เลือกฝนเฉพาะตัวเลือกที่ถูก
                                 – ฝนตัวเลือกที่ถูก จะได้ 0.25 คะแนน
                                 – ไม่ฝนตัวเลือกที่ผิด จะได้ 0.25 คะแนน

                        แบบที่ 2 : เป็นปรนัย 4 ตัวเลือก แต่ละตัวเลือกจะมีคะแนนไม่เท่ากัน โดยคะแนนจะลดหลั่นลงตามความถูกต้องของตัวเลือก ตั้งแต่ 0 – 1 คะแนน

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความคิด ทัศนคติ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหาในการทำงาน การจัดการอารมณ์ และการอยู่รวมกับผู้อื่น โดยคำตอบไม่ได้มีผิดหรือถูกชัดเจน แต่จะให้คะแนนตามความเหมาะสมของตัวเลือกที่น้อง ๆ เลือก ซึ่งข้อสอบแบ่งเป็น 4 ด้าน

                       1.) การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม

                       2.) การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน

                       3.) การบริหารจัดการอารมณ์

                       4.) การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม

* คะแนน TGAT รวม จะคิดจากคะแนนเฉลี่ยของ TGAT ทั้ง 3 ส่วน *

TPAT

อีกหนึ่งข้อสอบที่น้องจะเจอในการสอบ TCAS67 ก็คือ TPAT : วัดความถนัดทางวิชาชีพ (Thai Professional Aptitude Test) ซึ่งแบ่งการสอบเป็น 5 ความถนัด โดยน้อง ๆ สามารถเลือกสอบได้ตามต้องการ พี่ Panya Society แนะนำให้น้อง ๆ ลงสอบเฉพาะความถนัดที่น้อง ๆ สนใจ เพราะคะแนน TPAT จะใช้กับคณะที่ต้องการความถนัดเฉพาะสาย เป็นเกณฑ์การคิดคะแนน

รูปแบบการสอบ : เลือกแบบคอมพิวเตอร์ หรือแบบกระดาษ (ยกเว้น TPAT1 สอบแบบกระดาษเท่านั้น)

สนามสอบ : เลือกได้ 5 อันดับ

ซึ่งข้อสอบ TPAT ทั้ง 5 ส่วน มีดังนี้ 

TPAT1 : ความถนัดแพทย์ (กสพท.)

   จำนวนข้อ : 140 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 300 คะแนน

   เวลาสอบ : 3 ชั่วโมง 15 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก / ฝนรหัสคำตอบ

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบที่จะวัดทักษะต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหลับการเรียนสายแพทย์ นอกเหนือจากความรู้ทางด้านวิชาการ ได้แก่ การคิดวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ จรรยาบรรณแพทย์ การแก้ปัญหา และการคิดเชื่อมโยง (คล้าย GAT เชื่อมโยงแบบเดิม) โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน

                       1.) เชาว์ปัญญา จำนวน 45 ข้อ เวลาสอบ 75 นาที

                       2.) จริยธรรม จำนวน 75 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที

                       3.) เชื่อมโยง จำนวน 20 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที

TPAT2 : ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์

   จำนวนข้อ : 150 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 3 ชั่วโมง

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 4 ตัวเลือก 

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบที่จะวัดทักษะด้านศิลปะต่าง ๆ โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน (สามารถเลือกสอบเฉพาะด้านที่สนใจได้)

                       1.) ทัศนศิลป์ จำนวน 50 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน

                       2.) ดนตรี จำนวน 50 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน

                       3.) นาฎศิลป์ จำนวน 50 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน

* คะแนน TPAT2 รวม จะคิดจากคะแนนเฉลี่ยของ TPAT2 ทั้ง 3 ส่วน *

TPAT3 : ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์

   จำนวนข้อ : 70 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 3 ชั่วโมง

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบที่จะวัดทักษะต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหลับการเรียนวิศวกรรมศาสตร์ ได้แก่ การคิดวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ ความรู้เชิงกลและฟิสิกส์ ความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ และการรู้ททันข่าวสารทางวิทยาศาสตร์ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน

                       1.) การทดสอบความถนัด (aptitude test) ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์

                       2.) การทดสอบความคิดและความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์

TPAT4 : ความถนัดทางสถาปัตยกรรม

   จำนวนข้อ : 40 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 3 ชั่วโมง

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบที่จะวัดทักษะต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหลับการเรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์ ได้แก่ การออกแบบ สีและความงาม โครงสร้างทางสถาปัตยกรรม และมิติสัมพันธ์

TPAT5 : ความถนัดครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์

   จำนวนข้อ : 100 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 3 ชั่วโมง

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบที่จะวัดทักษะต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหลับการเป็นครู นอกเหนือจากความรู้วิชาการ ได้แก่ การสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การอยู่รวมกับผู้อื่น และทัศนคติที่เหมาะสมกับอาชีพครู โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน

                       1.) ความสามารถพื้นฐานทางวิชาชีพครู

                       2.) คุณลักษณะความเป็นครู

A-Level

อีกหนึ่งข้อสอบสำคัญที่น้องจะเจอในการสอบ TCAS67 ก็คือ A-Level : ข้อสอบวัดความรู้ประยุกต์ (Applied Knowledge Level) ซึ่งแบ่งการสอบเป็น 9 วิชา โดยน้อง ๆ สามารถเลือกสอบได้ตามต้องการ พี่ Panya Society แนะนำให้น้อง ๆ ลงสอบเฉพาะวิชาในสายที่น้อง ๆ สนใจ เพราะแต่ละคณะ จะใช้คะแนน A-Level เพียงไม่กี่วิชา (ยกเว้นสายแพทย์ ที่ใช้เกือบทุกวิชา) เป็นเกณฑ์การคิดคะแนน

รูปแบบการสอบ : แบบกระดาษ

สนามสอบ : เลือกได้ 5 อันดับ

ซึ่งข้อสอบ A-Level มีดังนี้ 

A-Level Math1 : วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1

   จำนวนข้อ : 30 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 25 ข้อ / ฝนตัวเลขคำตอบ 5 ข้อ

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ทั้งพื้นฐาน และเพิ่มเติม โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน การวิเคราะห์โจทย์ และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

A-Level Math2 : วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2

   จำนวนข้อ : 30 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 25 ข้อ / ฝนตัวเลขคำตอบ 5 ข้อ

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์พื้นฐาน โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน การวิเคราะห์โจทย์ และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

A-Level Sci : วิทยาศาสตร์ประยุกต์

   จำนวนข้อ : 30 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

  รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 26 ข้อ / ข้อสอบ 1 ข้อ มี 3 ข้อย่อย จำนวน 4 ข้อ (ตอบถูกทั้ง 3 ข้อ ได้คะแนนเต็ม ตอบถูก 2 ข้อ ได้คะแนนครึ่งเดียว ตอบถูก 0 – 1 ข้อ ไม่ได้คะแนน)

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน และตีความโจทย์

A-Level Phy : ฟิสิกส์

   จำนวนข้อ : 30 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 25 ข้อ / ฝนตัวเลขคำตอบ 5 ข้อ

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านฟิสิกส์ โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน การวิเคราะห์โจทย์ และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

A-Level Chem : เคมี

   จำนวนข้อ : 35 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 30 ข้อ / ฝนตัวเลขคำตอบ 5 ข้อ

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านเคมี โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน การวิเคราะห์โจทย์ และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

A-Level Bio : ชีววิทยา

   จำนวนข้อ : 40 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 35 ข้อ / ข้อสอบ 1 ข้อ มี 3 ข้อย่อย จำนวน 5 ข้อ (ตอบถูกทั้ง 3 ข้อ ได้คะแนนเต็ม ตอบถูก 2 ข้อ ได้คะแนนครึ่งเดียว ตอบถูก 0 – 1 ข้อ ไม่ได้คะแนน)

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านชีววิทยา โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน และตีความโจทย์

A-Level Soc : สังคมศึกษา

   จำนวนข้อ : 50 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านสังคมศาสตร์ โดยเน้นการตีความโจทย์

A-Level Thai : ภาษาไทย

   จำนวนข้อ : 50 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านภาษาไทย โดยเน้นการตีความโจทย์ สรุปใจความสำคัญ

A-Level Eng : ภาษาอังกฤษ

   จำนวนข้อ : 80 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 4 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ ทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน

A-Level ภาษาต่างประเทศอื่น ๆ

   จำนวนข้อ : 50 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 4 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านภาษาต่างประเทศอื่น ๆ มีให้เลือก 7 ภาษา (เลือกสอบได้เพียง 1 ภาษา) ได้แก่

                       – A-Level Fre : ภาษาฝรั่งเศส
                       – A-Level Ger : ภาษาเยอรมัน
                       – A-Level Jap : ภาษาญี่ปุ่น
                       – A-Level Kor : ภาษาเกาหลี
                       – A-Level Chi : ภาษาจีน 
                       – A-Level Bal : ภาษาบาลี
                       – A-Level Spn : ภาษาสเปน

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับ #Dek67 ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะตอบคำถามที่น้อง ๆ หลายคนสงสัยกันได้พอสมควรแล้วนะครับ แต่พี่ ๆ ต้องของบอกไว้ก่อนว่าข้อมูลข้างต้นที่นำมาเผยแพร่เป็นข้อมูลที่อ้างอิงจากปีก่อนหน้า ทำให้ข้อมูลอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ในอนาคต โดยทางทปอ.จะมีการแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ๆ ดังนั้นน้อง ๆ ควรต้องติดตามข่าวสารกันอย่างใกล้ชิด หรือจะติดตามจากทาง Panya Society ไว้ก็ได้ ถ้ามีข้อมูลอะไรอัพเดท พี่ ๆ จะรีบนำมาแจ้งให้น้อง ๆ ทุกทราบโดยเร็ว

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้จักกับข้อสอบ TCAS67 จะเห็นว่ามีข้อสอบเยอะมาก น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส “TCAS67 ทั้ง 6 วิชาจาก PANYA SOCIETY” ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS67 ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS67 จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥