สรุป TGAT แบบเข้าใจง่าย พร้อมแนะจุดที่ต้องรู้ก่อนสอบ

PANYA SOCIETY

สรุป TGAT แบบเข้าใจง่าย พร้อมแนะจุดที่ต้องรู้ก่อนสอบ

สรุป TGAT

สวัสดีครับน้อง ๆ ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS นะครับ วันนี้พี่จะพามาดู สรุป TGAT เพื่อช่วยน้อง ๆ ไม่พลาดเนื้อหาสำคัญ สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมสอบ พี่แนะนำให้ดูสรุป TGAT เพื่อจะได้เป็นการทบทวนเนื้อหา และเก็บตกจุดที่ต้องรู้ก่อนสอบ และอ่านหนังสือได้ถูกทางมากขึ้น และพร้อมสอบมากยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

TGAT ความถนัดทั่วไป ออกสอบทั้งหมด 3 พาร์ตใหญ่ ซึ่งมีเนื้อหามากมายที่ต้องรู้ 

สรุปเนื้อหา TGAT ที่สำคัญ ของแต่ละพาร์ต ได้แก่

  • TGAT1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ ออกปีละ 60 ข้อ เนื้อหาที่ใช้บ่อย :
    บทสนทนา : มักออกสถานการณ์ ทักทายเพื่อน ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องเรียน ที่ทำงาน คุยโทรศัพท์

    อ่านจับใจความ : อ่านคำถามก่อนอ่านบทความ  ใช้เทคนิคเดาเรื่องราวจากคำถาม

  • TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล ออกปีละ 80 ข้อ เนื้อหาที่ใช้บ่อย :
    การอ่านจับใจความภาษาไทย : ใจความสำคัญมักอยู่ประโยคแรกของบทความ หรือประโยคสุดท้ายของบทความ หรือตรงกึ่งกลางบทความ

    คณิตศาสตร์พื้นฐาน : สถิติพื้นฐาน ร้อยละ ตรีโกณมิติพื้นฐาน พื้นที่รูปต่าง ๆ การนับ ความน่าจะเป็น โจทย์ปัญหาจำนวนจริง เส้นจำนวน การแบ่งการทำงาน

    มิติสัมพันธ์ : การพับกล่อง การหมุนรูป การเปลี่ยนมุมมองรูปตามตัวอย่าง การประกอบรูปตามตำแหน่ง

    การใช้ตรรกะ : อนุุกรมภาพ ตรรกกะเชิงประโยค

  • TGAT3 สมรรถนะการทำงาน ออกปีละ 60 ข้อ เนื้อหาที่ใช้บ่อย :
    การตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ : เน้น 5 stages of design thinking process

    การแก้ปัญหาตามสถาณการณ์ : แก้ปัญหาตามหลักการ ไม่ผิดกฎหมาย หรือผิดศีลธรรม

    การจัดการอารมณ์ : ต้องไม่เดือดร้อนตัวเองและผู้อื่น

สรุปเนื้อหา TGAT

เนื้อหา TGAT นั้นมีมากมาย วันนี้พี่จะมาคัดสรุป TGAT ที่ออกสอบบ่อย มาดูกันว่าแต่ละพาร์ตมีเนื้อหาไหนที่สำคัญบ้าง ไปดูกันเลย

TGAT1 : การสื่อสารภาษาอังกฤษ

เนื้อหาที่ใช้บ่อย :

  • บทสนทนา : มักออกสถานการณ์ ทักทายเพื่อน ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องเรียน ที่ทำงาน คุยโทรศัพท์
  • Cloze test : เติมคำในช่องว่างให้ถูกหลัก gramma และ vocabulary

TGAT2 : การคิดอย่างมีเหตุผล

เนื้อหาที่ใช้บ่อย :

  • การอ่านจับใจความภาษาไทย : ใจความสำคัญมักอยู่ประโยคแรกของบทความ หรือประโยคสุดท้ายของบทความ หรือตรงกึ่งกลางบทความ
  • คณิตศาสตร์พื้นฐาน :
    – ค่าเฉลี่ยเลขคณิต = ∑xi / N
    – มัธยฐาน คือ ค่าของข้อมูลที่อยู่ตรงกลาง เมื่อเรียงลำดับข้อมูลจากน้อยไปมากหรือมากไปน้อย
    – ฐานนิยม คือ ค่าข้อมูลตัวที่ซ้ำมากที่สุด
    – พิสัย = ค่ามากสุด – ค่าน้อยสุด
    – ร้อยละ = (ค่าที่ต้องการหา / ค่าทั้งหมด) * 100
    – ตรีโกณมิติพื้นฐาน :
       sin 0° = 0  , cos 0° = 1
       sin 30° = 1/2  , cos 30° = √(3) / 2
       sin 45° = cos 45° = √(2) / 2
       sin 60° = √(3) / 2  , cos 60° = 1 / 2
       sin 90° = 1  , cos 90° = 0
    – พื้นที่สามเหลี่ยม = (1/2) × ฐาน × สูง
    – พื้นที่สี่เหลี่ยมมุมฉาก = กว้าง × ยาว
    – พื้นที่สี่เหลี่ยมด้านขนาน = ฐาน × สูง 
    – พื้นที่วงกลม = πr2
    – การนับ :
      P(n, r) = n! / (n – r)!
      C(n, r) = n! / ((n – r)! r!)
    – ความน่าจะเป็น : P(E) = n(E) / n(S)
  • มิติสัมพันธ์ :
    – การพับกล่อง : ใช้เทคนิคดูทีละคู่
    – การหมุนรูป : ใช้เทคนิคขีดเส้นตามรูป
    – การเปลี่ยนมุมมองรูปตามตัวอย่าง : ใช้เทคนิคมองทีละจุด
    – การประกอบรูปตามตำแหน่ง : ใช้เทคนิคจับประกบ
  • การใช้ตรรกะ : 
    – อนุุกรมภาพ : ใช้เทคนิคมองทีละจุด
    – ตรรกกะเชิงประโยค : ใช้เทคนิคสมมติสถานการณ์

TGAT3 : สมรรถนะการทำงาน

เนื้อหาที่ใช้บ่อย :

  • การตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ :
    – เน้น 5 stages of design thinking process
  • การแก้ปัญหาตามสถาณการณ์ :
    – แก้ปัญหาตามหลักการ ไม่ผิดกฎหมาย หรือผิดศีลธรรม
  • การจัดการอารมณ์ :
    – ต้องไม่เดือดร้อนตัวเองและผู้อื่น

มาถึงจุดนี้น้อง ๆ ก็จะได้เห็น สรุป GAT แล้วว่าบทไหนใช้เนื้อหาไหนบ่อย หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ ทบทวนเนื้อหาได้ดีขึ้นนะครับ

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับน้อง ๆ ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะช่วยสรุป TGAT เพื่อให้น้อง ๆ ได้ทบทวนเนื้อหา และเก็บตกจุดที่อาจลืมไปได้นะครับ แต่พี่ ๆ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าเนื้อหาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่จุดที่ออกบ่อยเท่านั้น ถ้าน้อง ๆ คนไหนยังพอมีเวลาก็อยากให้ทบทวนให้ครบทุกจุดเลยนะครับ และสำหรับน้อง ๆ คนที่ต้องเตรียมตัวสอบหลายวิชา อย่าลืมวางแผนเผื่อเวลาไว้สำหรับวิชาอื่นกันด้วยนะครับ

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้แล้วว่า TGAT ออกอะไรบ้าง สำหรับ TCAS นี้หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ อ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น และจะเห็นว่าหลายคณะ ต้องใช้คะแนนสอบค่อนข้างสูง น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส TGAT วิชาวัดความถนัดทั่วไป จาก PANYA SOCIETY ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

สรุป TPAT3

ฟิสิกส์ A-Level เรียนที่ไหนดี?

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

ฟิสิกส์ A-Level เรียนที่ไหนดี? แนะนำคอร์สฟิสิกส์ที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย

PANYA SOCIETY

ฟิสิกส์ A-Level เรียนที่ไหนดี? แนะนำคอร์สฟิสิกส์ที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ฟิสิกส์ A-Level เรียนที่ไหนดี?

ข้อสอบ ฟิสิกส์ A-Level ถือเป็นหนึ่งในข้อสอบวิชาหลักที่ต้องพิชิต สำหรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ที่มีเป้าหมายสอบเข้าคณะยอดฮิต เช่น แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ รวมถึงคณะในกลุ่มสุขภาพอื่น ๆ แน่นอนว่าการเตรียมตัวสอบ ฟิสิกส์ A-Level ให้ได้คะแนนสูง นักเรียนจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา วิเคราะห์โจทย์อย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถจัดการกับข้อสอบที่มีความซับซ้อนได้อย่างมั่นใจ ดังนั้นน้องหลาย ๆ คน จึงสนใจคอร์สติวสอบฟิสิกส์ A-Level เพื่อก้าวไปสู่คณะในฝัน

ในบทความนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปรู้จักกับคอร์สฟิสิกส์ A-Level ที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันครับ

ทำไมต้องเรียนฟิสิกส์ A-Level?

ก่อนที่เราจะไปแนะนำคอร์ส เราควรเข้าใจก่อนว่าฟิสิกส์ A-Level สอบอะไร และทำไมการเตรียมตัวฟิสิกส์ A-Level จึงสำคัญ

เนื้อหาของข้อสอบฟิสิกส์ A-Level ครอบคลุมฟิสิกส์ ม.ปลาย 19 บท ตั้งแต่กลศาสตร์, คลื่นกลและแสงไฟฟ้า แม่เหล็ก และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, อุณหพลศาสตร์ และสมบัติเชิงกลของสาร, และฟิสิกส์แผนใหม่ ซึ่งมีจำนวนเนื้อหาค่อนข้างมาก และจำเป็นต้องฝึกฝนการทำโจทย์เพื่อให้มีทักษะในการทำข้อสอบ

อีกทั้งคะแนนสอบ ฟิสิกส์ A-Level เป็นหนึ่งในคะแนนสำคัญสำหรับการสอบเข้าคณะกลุ่มวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และกลุ่มแพทย์ กสพท. ดังนั้นการเตรียมตัวสอบฟิสิกส์ A-Level จึงสำคัญมากสำหรับนักเรียนที่ฝันอยากเข้าคณะดัง ที่มีการแข่งขันสูง

แนะนำคอร์สติวสอบ ฟิสิกส์ A-Level

คอร์ส ฟิสิกส์ A-Level โดย พี่แชร์ Panya Society

จุดเด่นของคอร์ส

1. เนื้อหาครบตรงตาม Test Blueprint
คอร์สเรียนฟิสิกส์ A-Level ของ Panya Society มีเนื้อหาครบทั้ง 19 บท ที่ออกสอบตาม Test Blueprint จาก ทปอ. พร้อมแนวโจทย์ตามสไตล์ข้อสอบของสสวท. และสไตล์อื่น ๆ ในความยากระดับเดียวกันกับข้อสอบ

2. ออกแบบคอร์สเรียนให้เหมาะสมกับนักเรียนทุกคน
ในคอร์สมีการจัดเนื้อหาแต่ละบทเรียนอย่างเป็นระบบ พร้อมแบบฝึกหัดไล่ระดับจากข้อง่ายไปจนถึงข้อยาก เพื่อให้นักเรียนค่อย ๆ เก่งขึ้นไปทีละระดับ พร้อมแบ่งเวลาแต่ละเนื้อหาเป็นคลิปสั้น ไม่ยืดยาว เพื่อไม่ให้นักเรียนเหนื่อยล้าและเบื่อหน่าย แม้นักเรียนที่พื้นฐานอ่อนก็สามารถเรียนเข้าใจได้

3. อัปเดตแนวข้อสอบล่าสุด พร้อมเทคนิคการวิเคราะห์ข้อสอบ
ในคอร์สจะมีเฉลยข้อสอบฟิสิกส์เข้ามหาวิทยาลัยย้อนหลังแบบละเอียดให้นักเรียนได้ฝึกหลายชุด ที่สำคัญในคอร์สบทวิเคราะห์ข้อสอบย้อนหลังและแนวข้อสอบปีถัดไป เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจแนวคิดของข้อสอบ รูปแบบ และระดับความยากของข้อสอบ พร้อมทั้งแนะนำกลยุทธ์ในการวิเคราะห์โจทย์ซับซ้อน มีเทคนิคที่ช่วยให้นักเรียนทำข้อสอบได้เร็วและถูกต้อง

4. สอนโดยอาจารย์ผู้สอนระดับแนวหน้า
คอร์สเรียนฟิสิกส์ A-Level ของ Panya Society สอนโดย พี่แชร์ อดีตเหรียญทองฟิสิกส์โอลิมปิก ในคอร์สพี่แชร์จะสอนฟิสิกส์ม.ปลาย แบบที่เข้าใจง่าย สามารถแก้โจทย์ได้อย่างเป็นระบบ พร้อมแนะเทคนิคที่สามารถใช้ได้จริงในห้องสอบ

5. เรียนออนไลน์ได้ทุกที่ และดูซ้ำได้ไม่จำกัด
คอร์สเรียนทุกคอร์สของ Panya Society เป็นการเรียนออนไลน์บนเว็บไซต์ นักเรียนสามารถกำหนดเวลาเรียนได้เองตามสะดวก เลือกบทเรียนได้เอง เรียนไม่จำกัดชั่วโมงตลอด 1 ปี หากเรียนไม่เข้าใจสามารถแชท ถามตอบกับอาจารย์ได้ตลอด การันตีตอบภายใน 1-24 ชม.

รีวิวจากนักเรียนที่สอบติดคณะยอดฮิต

“พี่แชร์อธิบายเนื้อหาเข้าใจง่าย แยกโจทย์เป็นหัวข้อ ๆ แล้วก็ให้เวลาทำก่อนเฉลยด้วย ดีมาก ๆ เลยค่ะะ ช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้อย่างดี”เฟื่องฟ้า (สอบติดแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

“พี่แชร์สอนเข้าใจมาก ๆ เรื่องไหนที่หนูไม่เข้าใจ ก็ได้พี่ ๆ คอยช่วยสอน ขอบคุณมาก ๆ นะคะ”ใบเตย (สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี)

สรุป “ฟิสิกส์ A-Level เรียนที่ไหนดี?”

ถ้าหากน้องเป็นหนึ่งในคนที่ตั้งเป้าหมายสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นคณะแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือคณะใดก็ตาม ฟิสิกส์ A-Level คือด่านสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ด้วยคุณภาพของเนื้อหา แนวโจทย์ที่ครบครันในคอร์สเดียว พร้อมการสอนจากติวเตอร์ที่คุณภาพระดับเหรียญทองโอลิมปิก ในราคาที่สุดแสนจะคุ้มค่า คอร์สเรียนฟิสิกส์ A-Level ของ Panya Society จึงเป็นคำตอบสุดท้ายของการเรียนฟิสิกส์เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยแน่นอนครับ

อย่ารอช้า! สมัครคอร์สฟิสิกส์ A-Level กับ Panya Society วันนี้ เพื่อเปิดทางสู่คณะในฝันของน้องให้สำเร็จ

คอร์สเรียน

Video ตัวอย่างการสอน

สรุป TGAT

เคมี A-Level เรียนที่ไหนดี?

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

TPAT3 เรียนที่ไหนดี? แนะนำคอร์ส TPAT3 ที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

PANYA SOCIETY

TPAT3 เรียนที่ไหนดี? แนะนำคอร์ส TPAT3 ที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

TPAT3 เรียนที่ไหนดี?

ข้อสอบ TPAT3 ความถนัดด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ เป็นข้อสอบที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเรียนที่ตั้งใจจะสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ เกษตรฯ พระจอมเกล้าฯทั้งสามแห่ง หรือมหาวิทยาลัยอื่น ๆ อีกมากมาย

ข้อสอบ TPAT3 ไม่ได้วัดแค่ความรู้ด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ แต่ยังวัดทักษะการคิดแบบวิศวกร และวิทยาศาสตร์ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การแก้ปัญหา และการคิดเป็นระบบ ดังนั้น การเตรียมตัวสอบ TPAT3 จึงไม่สามารถใช้แค่การอ่านทวนเนื้อหาเท่านั้น แต่ต้องมีการฝึกฝนโจทย์เฉพาะทาง และเรียนรู้วิธีคิดให้สอดคล้องกับแนวทางข้อสอบ

บทความนี้จะพาน้องไปรู้จักกับคอร์สติว TPAT3 ที่ออกแบบมาสำหรับการสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะครับ

ทำไมต้องเตรียมสอบ TPAT3?

เป็นที่ทราบกันดีว่า TPAT3 คือข้อสอบที่วัดความรู้เฉพาะทาง ที่หาเรียนจากโรงเรียนไม่ได้ โดยข้อสอบนี้มีแนวทางต่างจาก A-Level ทั่วไป เพราะนอกจากจะมีเนื้อหาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ระดับ ม.ปลาย แล้ว ยังรวมถึงโจทย์เชิงวิเคราะห์ ที่เน้นการแก้ปัญหาและการออกแบบวิธีคิดอีกด้วย

ข้อสอบ TPAT3 จะแบ่งเนื้อหาข้อสอบดังนี้

ส่วนที่ 1: การทดสอบความถนัด (aptitude test) ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
1) ด้านตัวเลข (numerical reasoning)
2) ด้านมิติสัมพันธ์ (diagrammatic reasoning)
3) ด้านเชิงกล (mechanical reasoning) และด้านฟิสิกส์ (physics aptitude test)

ส่วนที่ 2: การทดสอบความคิดและความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
1) ความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
2) ความสนใจข่าวสารความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์

จะเห็นได้ว่า เนื้อหาข้อสอบ TPAT3 ไม่ใช่สิ่งที่สอนในโรงเรียน แต่เป็นการนำความรู้มาประยุกต์ ดังนั้นการเตรียมสอบ TPAT3 จึงต้องอาศัยความเข้าใจ และการฝึกโจทย์ที่ออกแนวเฉพาะทาง ซึ่งการเรียนจากคอร์สที่ออกแบบมาโดยเฉพาะจะช่วยให้น้องเตรียมพร้อมได้ดียิ่งขึ้น

แนะนำคอร์สติวสอบ TPAT3

คอร์ส TPAT3 โดย พี่แชร์ Panya Society

จุดเด่นของคอร์ส

1. ครอบคลุมทุกเนื้อหาที่ออกสอบจริง
คอร์ส TPAT3 ของ Panya Society มีสอนให้ครบทั้ง 5 พาร์ต ในคอร์สจะสอนสรุปเนื้อหาต่าง ๆ ที่ออกสอบ พร้อมพาทำโจทย์ สอนวิเคราะห์สถานการณ์ และมีแนวข้อสอบ TPAT3 ที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริงมากที่สุด พร้อมติวเนื้อหาข่าวสารที่อาจออกสอบในปีนั้น ๆ

2. ฝึกกระบวนการคิดที่ถูกต้อง ไม่ใช่แค่จำสูตรไปสอบ
ในคอร์สจะมีการสอนวิธีมองโจทย์ วิเคราะห์เนื้อหาที่ต้องใช้แก้ พร้อมเทคนิคในการทำโจทย์ให้รวดเร็วและถูกต้อง ทำให้นักเรียนสามารถทำข้อสอบประยุกต์ได้ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับทำข้อสอบ TPAT3

3. สอนโดยผู้สอนที่จบวิศวะ ได้แนวคิดจากวิศวะจริง
พี่แชร์ เรียนจบปริญญาตรีและโท คณะ Electrical and Computer Engineering ที่ Carnegie Mellon University ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีชื่อเสียงโดดเด่นในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรม ดังนั้นนักเรียนจะได้รับความรู้ที่มีคุณภาพ พร้อมเทคนิคที่สามารถใช้ได้จริง

4. เรียนออนไลน์ได้ทุกที่ ดูซ้ำได้ไม่จำกัด
คอร์สเรียนผ่านเว็บไซต์ของ Panya Society ดูได้ทุกเวลา ดูซ้ำได้ตลอด 1 ปี หากมีข้อสงสัยในบทเรียนสามารถส่งคำถามเข้าระบบถามอาจารย์ และจะได้รับคำตอบภายใน 1-24 ชั่วโมง

รีวิวจากนักเรียนที่สอบติดคณะในฝัน

“หนูเรียนเป็นคอร์ส TPAT3 ค่ะ ก็รู้สึกว่าคอร์สนี้ช่วยให้รู้จักกับข้อสอบมากขึ้น ช่วยให้รู้แนวข้อสอบ โดยเฉพาะพวกโจทย์มองภาพกับอนุกรม ในหนังสือก็มีโจทย์ให้ทำเยอะเลยทำให้ได้รู้หลายวิธีคิดแล้วก็ทำให้คุ้นเคยกับโจทย์มากขึ้น พอเจอในข้อสอบจริงก็เลยไม่ได้รู้สึกตกใจเกินค่ะ แล้วก็ชอบที่คอร์สไม่ได้ยาวเกินไป เน้นเนื้อหากับการเฉลยโจทย์ค่ะ”
ฟ้าจัง (สอบติดวิศวกรรมศาสตร์ (อินเตอร์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

“ขอบคุณพี่ ๆ นะครับที่นำเทคนิคมาสอนผมให้ได้ใช้ในการสอบนะครับ ผมได้ TPAT3 เยอะได้เพราะพี่ ๆ เลยครับ ขอบคุณพี่ ๆ นะครับผม”
พี (สอบติดวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี)

สรุป “TPAT3 เรียนที่ไหนดี?”

ถ้าน้องกำลังเตรียมสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือคณะวิทยาศาสตร์ ข้อสอบ TPAT3 คือข้อสอบที่ “ต้องได้คะแนนสูง” เพราะเป็นข้อสอบที่มีสัดส่วนคะแนนสูงมาก ติดหรือไม่ติดสามารถตัดกันที่คะแนน TPAT3 ได้เลย

คอร์ส TPAT3 ของ Panya Society คือคำตอบที่ครอบคลุมทุกอย่าง ทั้งเนื้อหา เทคนิค และแนวคิด พร้อมฝึกฝนโจทย์แบบเฉพาะทางที่หาไม่ได้ในโรงเรียนทั่วไป ช่วยให้น้องทำคะแนน TPAT3 ได้แบบมั่นใจ

สมัครเรียน TPAT3 กับ Panya Society วันนี้ เพื่อก้าวสู่คณะในฝันได้ตามที่ตั้งใจไว้!

คอร์สเรียน

ฟิสิกส์ TPAT3

11 Videos

Video ตัวอย่างการสอน

คณิต A-Level เรียนที่ไหนดี?

TGAT เรียนที่ไหนดี?

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

TGAT เรียนที่ไหนดี? แนะนำคอร์ส TGAT ที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย

PANYA SOCIETY

TGAT เรียนที่ไหนดี? แนะนำคอร์ส TGAT ที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย

TGAT เรียนที่ไหนดี?

TGAT คือหนึ่งในข้อสอบสำคัญในระบบ TCAS สำหรับนักเรียนระดับ ม.6 ที่กำลังจะยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัยทุกคณะ ไม่ว่าจะเป็นสายวิทย์ สายศิลป์ หรือสายสังคม TGAT เป็นเหมือนใบเบิกทางที่จะพานักเรียนเข้าสู่คณะในฝัน เพราะมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่นำคะแนน TGAT ไปใช้ในการพิจารณาในรอบโควตา และรอบ 3 Admission

ข้อสอบ TGAT แบ่งออกเป็น 3 หมวดหลัก ได้แก่

TGAT1: การสื่อสารภาษาอังกฤษ

TGAT2: การคิดอย่างมีเหตุผล

TGAT3: สมรรถนะการทำงาน

ถึงแม้เนื้อหาข้อสอบจะไม่ยากเท่า A-Level แต่การจะทำคะแนน TGAT ให้สูง ต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะ ฝึกฝนโจทย์หลากหลาย และเข้าใจแนวข้อสอบในแต่ละหมวดอย่างลึกซึ้ง บทความนี้จะพาน้องไปรู้จักกับคอร์ส TGAT ที่ช่วยให้สอบได้คะแนนสูง พร้อมเทคนิคที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง!

ทำไมต้องเตรียมสอบ TGAT?

การสอบ TGAT เป็นเสมือนด่านแรกของการคัดกรอง “ทักษะทั่วไป” ที่นักเรียนต้องมี เพื่อใช้ในการเรียนระดับมหาวิทยาลัย ทั้งทักษะภาษาอังกฤษ, การคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผล และความสามารถในการทำงานกับผู้อื่น ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับโลกการทำงานในอนาคต สำคัญคือนักเรียนต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า ..

“TGAT ไม่ใช่ข้อสอบวัดความรู้แบบท่องจำ”

แต่เน้นวัด “ทักษะและสมรรถนะ” ที่ต้องฝึกจากการลงมือทำและวิเคราะห์โจทย์จริง เช่น การวิเคราะห์บทความภาษาอังกฤษ, การหาเหตุผลจากข้อความเชิงซ้อน, การประเมินสถานการณ์ทางสังคม ฯลฯ ซึ่งหากจะทำให้แม่นและเร็วต้องใช้เวลาในการฝึกฝนพอสมควร

คะแนน TGAT มีค่าเฉลี่ยคะแนนที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับข้อสอบอื่น ๆ ดังนั้นใครที่เตรียมตัว TGAT แบบอ่านเล่น ๆ อาจพลาดคะแนนสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถ้ามีคอร์สเรียนที่วางแผนมาอย่างดี จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจแนวโจทย์ รู้จักเทคนิคที่ใช้ได้จริง และสามารถควบคุมเวลาสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนะนำคอร์สติวสอบ TGAT แบบครบทุกพาร์ต

คอร์ส TGAT ครบ 3 พาร์ต โดย Panya Society

จุดเด่นของคอร์ส

1. สอนครบ TGAT1, TGAT2, TGAT3 แบบเนื้อหา + เทคนิค
นักเรียนจะได้เรียน TGAT1 (อังกฤษ), TGAT2 (เหตุผล), และ TGAT3 (สมรรถนะ) ครบทุกพาร์ตในคอร์สเดียว มีทั้งเนื้อหา, แนวคิด, เทคนิควิเคราะห์โจทย์ พร้อมแบบฝึกหัดที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริง แบบที่ไม่ต้องไปหาเพิ่ม

2. วิเคราะห์ข้อสอบ TGAT ทุกหมวด + คาดการณ์แนวโจทย์ใหม่
ในคอร์สคุณครูผู้สอนจะวิเคราะห์ข้อสอบ TGAT ให้ว่าออกในรูปแบบไหน ควรเตรียมตัวอย่างไร พร้อมแนวโน้มข้อสอบถัดไป เพื่อช่วยสนับสนุนให้นักเรียนเตรียมได้ตรงจุดขึ้น

3. ติวเทคนิคทำข้อสอบให้เร็วและแม่นยำ
ในคอร์สจะมีการสอนเทคนิคเฉพาะ ที่หาไม่ได้จากโรงเรียน เช่น
TGAT1: เทคนิคเดาคำศัพท์จากบริบท, เทคนิคทำ Part Reading แบบรวดเร็ว
TGAT2: วิธีการมองภาพมิติสัมพันธ์ที่ใช้ได้จริง, เทคนิคจับจุดสำคัญในบทความทางภาษา
TGAT3: แนวคิดเชิงสร้างสรรค์นวัตกรรม และมุมมองการแก้ปัญหาอย่างมีหลักการ

4. สอนโดยติวเตอร์ขั้นเทพที่เข้าใจนักเรียนจริง ๆ
พี่แชร์ – อดีตเหรียญทองฟิสิกส์โอลิมปิก เคยทำงานในบ.ชื่อดังระดับโลก และปัจจุบันมีธุรกิจส่วนตัว พี่แชร์จะมีมุมมองในการสร้างคุณค่าและนวัตกรรม และการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน ที่สามารถใช้ได้จริงจากคนที่ทำงานจริงมาสอนให้
พี่ตวง – ติวเตอร์ภาษาอังกฤษประสบการณ์มากกว่า 10 ปี สอนนักเรียนสอบติดคณะดังมาแล้วมากมาย พี่ตวงเน้นสอนภาษาอังกฤษให้น้องเข้าใจง่าย ใช้ได้จริง พร้อมเทคนิคที่ช่วยดันคะแนนให้สูงขึ้น
พี่ชาร์ป – เกียรตินิยมอันดับ 1 ครุศาสตร์ จุฬาฯ ติวเตอร์ผู้เชี่ยวชาญการสอนภาษาไทย และความสามารถทางภาษา พร้อมเทคนิค “ขีดแล้วยิง” ที่ใช้ในข้อสอบได้จริง

5. เรียนออนไลน์ ดูซ้ำได้ไม่จำกัด พร้อมถาม-ตอบในคอร์ส
เรียนผ่านเว็บไซต์ของ Panya Society ได้ทุกที่ทุกเวลา เรียนซ้ำได้ตลอด 1 ปีเต็ม ถ้ามีคำถามสามารถส่งข้อความในระบบเพื่อสอบถามอาจารย์ได้โดยตรง และจะได้รับคำตอบภายใน 1-24 ชั่วโมง

รีวิวจากนักเรียนที่สอบติดคณะในฝัน

“ครูอธิบายเข้าใจมากค่ะ มีทริคทำข้อสอบดี ๆ เยอะเลย คอร์ส TGAT ช่วยให้หนูทำข้อสอบได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะพาร์ตมิติสัมพันธ์ ตอนแรกหนูนั่งมองนานมาก แต่พอได้ทำข้อสอบ และมีทริคด้วย ก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ”
ฟ้าใส (สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

“เราเรียนคอร์ส TGAT ซึ่งเป็นคอร์สที่มีครบทุกพาร์ตเลย ครบจบที่เดียว สอนละเอียดเข้าใจง่าย มีทริคค่อนข้างเยอะ ทั้งเนื้อหาและโจทย์ค่อนข้างหลายหลายทำให้ได้ลองคิดหลาย ๆ แบบ ทำให้เวลาเจอข้อสอบจริงนำไปประยุกต์ใช้ได้เยอะ ที่สำคัญคือมันคุ้มเพราะจ่ายทีเดียวสามารถเก็บ TGAT ได้ทั้ง 3 พาร์ตเลย”
เฟิร์น (สอบติดคณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์)

สรุป “TGAT เรียนที่ไหนดี?”

ถ้าน้องมีเป้าหมายจะสอบติดคณะในฝัน ไม่ว่าจะเป็นคณะวิศวะ บัญชี บริหาร นิเทศ รัฐศาสตร์ หรือคณะอื่น ๆ คะแนน TGAT คือพื้นฐานสำคัญ ที่ใช้ยื่นรอบโควตา/แอดมิชชั่นเกือบทุกคณะทั่วประเทศ

คอร์ส TGAT ของ Panya Society จึงออกแบบมาเพื่อให้น้องเข้าใจเนื้อหาและเทคนิค ให้น้องฝึกฝนแบบมีเป้าหมาย เพื่อให้สอบได้คะแนนสูง

สมัครคอร์ส TGAT วันนี้ เรียนครบ 3 พาร์ตในคอร์สเดียว เพื่อคว้าคะแนน มุ่งสู่คณะและมหาวิทยาลัยในฝัน!

คอร์สเรียน

Video ตัวอย่างการสอน

TPAT3 ออกอะไรบ้าง

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

คณิตศาสตร์ A-Level เรียนที่ไหนดี? แนะนำคอร์สคณิตที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย

PANYA SOCIETY

คณิตศาสตร์ A-Level เรียนที่ไหนดี? แนะนำคอร์สคณิตที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย

คณิตศาสตร์ A-Level เรียนที่ไหนดี?

คณิตศาสตร์ คือวิชาหลักที่มีผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของนักเรียนทั้งสายวิทยาศาสตร์ และสายศิลป์-คำนวณ ไม่ว่าจะสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ หรือคณะอื่น ๆ อีกมากมาย คะแนนคณิต A-Level มักเป็นตัวแปรสำคัญในการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อ

เนื่องจากคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีความซับซ้อน ใช้ทักษะวิเคราะห์ การประยุกต์สูตร และแก้โจทย์ที่มีหลายขั้นตอน การเตรียมตัวสอบอย่างถูกวิธีจึงจำเป็นอย่างยิ่ง และนั่นทำให้น้อง ๆ หลายคนเลือกเรียนคอร์สติวสอบคณิตศาสตร์ A-Level เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง

บทความนี้จะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักกับคอร์สคณิตศาสตร์ A-Level ที่ดีที่สุดสำหรับใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยครับ

ทำไมต้องติวคณิตศาสตร์ A-Level?

ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนครับว่า คณิตศาสตร์ในข้อสอบ A-Level จะแบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ฉบับ คือ

1.) A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 : เป็นข้อสอบที่ครอบคลุมเนื้อหาคณิตม.ปลาย ทั้งคณิตพื้นฐาน และคณิตเพิ่มเติม

2.) A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 : เป็นข้อสอบที่ครอบคลุมเฉพาะเนื้อหาคณิตพื้นฐาน ม.ปลาย เป็นหลัก

แต่ละมหาวิทยาลัย แต่ละคณะ แต่ละรูปแบบการรับ ก็จะมีเกณฑ์ในการใช้คะแนนคณิตศาสตร์ A-Level ที่ไม่เหมือนกัน บางที่อาจใช้คะแนน A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 หรือบางที่ใช้คะแนน A-Level คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 ในการยื่น ซึ่งจุดนี้น้องต้องระวังให้ดีนะครับ เพราะ บางครั้งแม้เป็นคณะทางเดียวกัน แต่คนละสถาบัน ก็อาจใช้คะแนนในการยื่นคนละข้อสอบกันครับ

รูปแบบข้อสอบคณิตใน A-Level มักจะเน้นวัดความเข้าใจเชิงลึก + การประยุกต์ใช้งาน มากกว่าการท่องจำสูตรไปสอบ ดังนั้นนักเรียนจึงต้องมีทั้งทักษะทางคณิตศาสตร์พื้นฐานและความสามารถในการวิเคราะห์โจทย์จึงจะสามารถทำคะแนนได้ บ่อยครั้งนักเรียนที่ “จำสูตรได้” กลับทำข้อสอบไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจคณิตศาสตร์ที่แท้จริง

แนะนำคอร์สติวสอบ คณิตศาสตร์ A-Level

คอร์สคณิตศาสตร์ A-Level โดย พี่นอต Panya Society

จุดเด่นของคอร์ส

1. ครอบคลุมเนื้อหาตาม Test Blueprint 100%
เนื้อหาในคอร์สสอดคล้องกับแนวข้อสอบจาก ทปอ. ครบทุกหัวข้อ พร้อมแบบฝึกหัดหลากหลายระดับ ทั้งง่าย-กลาง-ยาก ครอบคลุมโจทย์สไตล์ต่าง ๆ ที่มีความยากอิงกับแนวข้อสอบจริง

2. เรียนรู้แบบเป็นระบบ แม้พื้นฐานไม่แน่นก็เข้าใจได้
คอร์สถูกออกแบบให้สอนแบบ step-by-step โดยเริ่มจากคอนเซปต์พื้นฐาน ไล่ระดับจากง่ายสู่โจทย์ยาก พร้อมสรุปสูตรและแนวคิดทุกบท แบ่งคลิปสั้น ๆ เรียนง่าย ไม่เครียด และไม่น่าเบื่อ นักเรียนที่อาจยังไม่มั่นใจพื้นฐานของตัวเองก็สามารถเรียนให้เข้าใจได้ไม่ยาก

3. วิเคราะห์ข้อสอบเก่า + เทคนิคคิดที่ใช้ได้กับการสอบจริง
ในคอร์สพี่นอตจะพานักเรียนฝึกทำข้อสอบ A-Level ย้อนหลัง พร้อมวิเคราะห์จุดสำคัญ เฉลยละเอียด สอนวิธีตัดตัวเลือก และ เทคนิคต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นมากในข้อสอบที่มีเวลาไม่พอ คอร์สนี้จะฝึกให้นักเรียนรู้วิธีการแก้โจทย์ที่รวดเร็วและแม่นยำ

4. ติวโดยอาจารย์ระดับเทพ
พี่นอต เป็นอดีตนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวง จบป.เอกจาก UCLA พี่นอตสอนโดยเน้นให้เข้าใจแนวคิดคณิตศาสตร์ที่แท้จริง ไม่เน้นการท่องจำแบบผิด ๆ อธิบายชัดเจนเพื่อให้เห็นภาพ มีการยกตัวอย่างเปรียบเทียบ นักเรียนจะเข้าใจหลักการ พร้อมเทคนิคที่ใช้ได้จริงในห้องสอบ

5. เรียนออนไลน์ ดูซ้ำได้ไม่จำกัด พร้อมถามตอบได้
คอร์สเรียนผ่านเว็บไซต์ ดูเมื่อไรก็ได้ เรียนซ้ำกี่ครั้งก็ได้ในเวลา 1 ปี มีระบบแชทถามตอบกับอาจารย์ ถ้ามีข้อสงสัยในบทเรียน การันตีตอบภายใน 1-24 ชม. ช่วยให้นักเรียนไม่ต้องติดค้างเวลาเรียนเอง

รีวิวจากนักเรียนที่สอบติดคณะในฝัน

“หนูเรียนวิชาคณิตศาสตร์กับทาง Panya Society พี่นอตสอนเข้าใจมาก ๆ ค่ะ หนูเรียนแค่คอร์สเดียวได้ทั้งคณิต 1,2 เลยยยย 🩷 รักพี่นอตมาก ๆ ค่ะ ขอบคุณที่เป็นส่วนนึงของความสำเร็จหนูนะคะ”
ขนมผิง (สอบติดคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

“แบ่งบทเรียนเป็นคลิปสั้น ๆ และมีหัวข้อชัดเจนดีค่ะ ชอบการอธิบายบทเรียนส่วนที่เข้าใจยากด้วยการใช้ความเปรียบ มีช่องทางถามคำถามที่สะดวก มีสรุปบทเรียนและมีแบบฝึกหัดท้ายบทช่วยทวนอีกรอบค่ะ”
ขวัญ (สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

สรุป “คณิตศาสตร์ A-Level เรียนที่ไหนดี?”

ถ้าน้องตั้งเป้าหมายสอบเข้าคณะในฝัน ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ กสพท. วิศวะ เศรษฐศาสตร์ หรือคณะสายวิทย์อื่น ๆ คณิตศาสตร์ A-Level คือสนามสอบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นวิชาที่ต้องมี เทคนิค + ความเข้าใจ + ความเร็ว ไปพร้อมกัน

คอร์สคณิตศาสตร์ A-Level ของ Panya Society จึงตอบโจทย์ด้วยการสอนที่ “เข้าใจจริง” + “ทำข้อสอบได้จริง” โดยอาจารย์ระดับเทพ เนื้อหาครบ เทคนิคแน่น คุ้มค่าในคอร์สเดียว

อย่ารอช้า! สมัครเรียนคณิต A-Level กับ Panya Society วันนี้ เพื่อยกระดับคะแนนสอบ และเข้าใกล้คณะในฝันให้สำเร็จ!

คอร์สเรียน

Video ตัวอย่างการสอน

เคมี A-Level เรียนที่ไหนดี?

TPAT3 เรียนที่ไหนดี?

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

เคมี A-Level เรียนที่ไหนดี? แนะนำคอร์สเคมีที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย

PANYA SOCIETY

เคมี A-Level เรียนที่ไหนดี? แนะนำคอร์สเคมีที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย

เคมี A-Level เรียนที่ไหนดี?

ข้อสอบ เคมี A-Level เป็นหนึ่งในข้อสอบสำคัญที่นักเรียนสายวิทยาศาสตร์ต้องเจอ โดยเฉพาะผู้ที่มีเป้าหมายสอบเข้าคณะในฝัน เช่น แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือวิศวกรรมศาสตร์ในบางสาขา ซึ่งล้วนแต่ใช้คะแนนเคมี A-Level เป็นส่วนประกอบหลักของการพิจารณาคัดเลือก

การจะสอบ เคมี A-Level ให้ได้คะแนนสูง ไม่ใช่การ “จำสูตร” ไปสอบ แต่ต้องเข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง วิเคราะห์โจทย์เป็น จึงจะสามารถหาคำตอบได้อย่างถูกต้อง ดังนั้น การเลือกคอร์สติวสอบเคมีที่ดี จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่จะช่วยให้นักเรียนมั่นใจและพร้อมในการสอบมากยิ่งขึ้น

ในบทความนี้ เราจะพาน้อง ๆ ไปรู้จักกับคอร์สเคมี A-Level ที่ดีที่สุดสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันครับ

ทำไมต้องเรียนเคมี A-Level?

ก่อนแนะนำคอร์ส เราควรเข้าใจก่อนว่า เคมี A-Level ออกอะไรบ้าง? และทำไมการเตรียมตัวให้พร้อมในวิชานี้จึงจำเป็น

เนื้อหาของข้อสอบเคมี A-Level จาก Test Blueprint ของ ทปอ. จะครอบคลุมเคมี ม.ปลาย 3 ส่วน ได้แก่

ส่วนที่ 1 : สมบัติของธาตุและสารประกอบ
1) อะตอมและสมบัติของธาตุ
2) พันธะเคมี
3) แก๊ส
4) เคมีอินทรีย์
5) พอลิเมอร์

ส่วนที่ 2 : สมการเคมีและการเปลี่ยนแปลงทางเคมี
1) ปริมาณสัมพันธ์
2) อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
3) สมดุลเคมี
4) กรด–เบส
5) เคมีไฟฟ้า

ส่วนที่ 3 : ทักษะในปฏิบัติการเคมีและการคำนวณปริมาณของสาร
1) ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี
2) โมล
3) สารละลาย

ข้อสอบเคมี A-Level มีทั้งโจทย์คำนวณและเชิงวิเคราะห์ ที่ต้องอาศัยการตีความข้อมูล ความเข้าใจเนื้อหาเชิงลึก และทักษะในการแก้โจทย์ที่มีหลายขั้นตอน ซึ่งการเตรียมตัวผ่านการเรียนจากคอร์สที่วางแผนมาอย่างดี จะช่วยให้น้องประหยัดเวลา ฝึกทำโจทย์ได้ตรงจุด และเข้าใจภาพรวมได้เร็วกว่าครับ

แนะนำคอร์สติวสอบ เคมี A-Level

คอร์ส เคมี A-Level โดย พี่นัท Panya Society

จุดเด่นของคอร์ส

1. ครอบคลุมเนื้อหาตรงตาม Test Blueprint
คอร์สเคมี A-Level ของ Panya Society ครอบคลุมทุกเนื้อหาที่ออกสอบ พร้อมแบบฝึกหัด โจทย์แนวข้อสอบ A-Level และข้อสอบจริงในอดีตที่ผ่านการวิเคราะห์อย่างละเอียด ทั้งหมดมีให้ครบในคอร์สเดียว

2. ออกแบบคอร์สให้เข้าใจง่ายแม้ไม่มีพื้นฐาน
แต่ละบทเรียนมีการจัดเนื้อหาอย่างเป็นระบบ ไล่ลำดับจากง่ายไปยาก มีเทคนิคช่วยจำ และการสรุปจากครู ให้น้องเข้าใจภาพรวมได้เร็ว พร้อมแบบฝึกหัดที่ช่วยให้น้องฝึกวิเคราะห์และเช็กความเข้าใจด้วยตัวเอง

3. วิเคราะห์ข้อสอบเก่า + คาดการณ์แนวข้อสอบปีถัดไป
ในคอร์สจะมีการเฉลยข้อสอบเคมี A-Level ย้อนหลังแบบละเอียด พร้อมคลิปอธิบายวิธีคิด วิธีเลือกคำตอบ และแนะข้อผิดพลาดที่พบบ่อย นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์แนวโน้มข้อสอบปีถัดไป ช่วยให้น้องรู้ว่าควรเน้นอ่านจุดไหนก่อน

4. ติวโดยอาจารย์มือหนึ่งในสนามสอบ
คอร์สนี้สอนโดย พี่นัท จบปริญญาเอกจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีประสบการณ์สอนนักเรียนติดคณะดังมากมาย โดยพี่นัทจะสอนแบบเข้าใจง่าย ให้น้องเห็นภาพชัดเจน พร้อมเทคนิคที่ช่วยให้ทำข้อสอบได้ไวและแม่นขึ้น

5. เรียนออนไลน์ได้ทุกที่ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
คอร์สของ Panya Society เป็นระบบเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนเมื่อไรก็ได้ตามสะดวก ดูซ้ำได้ไม่จำกัดภายใน 1 ปีเต็ม พร้อมระบบถาม-ตอบกับอาจารย์ภายใน 1-24 ชม. หากไม่เข้าใจตรงไหนก็สอบถามได้ทันที

รีวิวจากนักเรียนที่สอบติดคณะยอดฮิต

“หนูซื้อคอร์สเคมีมาเพื่อเก็บเนื้อหาที่หนูไม่แม่น พี่สอนเข้าใจง่าย เห็นภาพ แล้วก็พาทำโจทย์เยอะด้วยค่ะ 🩷”
เจเจ (สอบติดคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

“เรียนคอร์สเคมีดีมากกกก เหมาะสำหรับคนสติเตลิดง่าย คลิปซอยสั้นถูกใจคนขี้เบื่อ แปป ๆ ก็ตอนถัดไปแล้ว มีให้จดตลอดด้วยช่วยให้โฟกัสง่ายขึ้น แบบฝึกหัดให้ทำเยอะสุด ๆ จนทำไม่ทันเลยค่ะ”
เบลส (สอบติดคณะแพทยศาสตร์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์)

สรุป “เคมี A-Level เรียนที่ไหนดี?”

ถ้าน้องคือคนหนึ่งที่ตั้งเป้าสอบเข้าคณะในกลุ่มแพทย์ กสพท. วิทยาศาสตร์ หรือวิศวกรรมศาสตร์บางสาขา เคมี A-Level คือด่านสำคัญที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ทั้งความเข้าใจเนื้อหา และการคำนวณได้อย่างแม่นยำ

คอร์สเคมี A-Level ของ Panya Society คือคำตอบสุดท้าย ด้วยการสอนแบบเข้าใจง่าย เทคนิคแน่น เนื้อหาครบตรงตามแนวข้อสอบ และคุณภาพจากผู้สอนระดับ ป.เอก

อย่ารอช้า! สมัครเรียนวันนี้ เริ่มต้นเตรียมสอบทันที และพิชิตคะแนนเคมี A-Level ให้ได้ตามฝัน!

คอร์สเรียน

Video ตัวอย่างการสอน

ฟิสิกส์ A-Level เรียนที่ไหนดี?

คณิต A-Level เรียนที่ไหนดี?

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

TGAT ออกอะไรบ้าง? อัปเดตล่าสุด 2568 พร้อมเทคนิคอ่านให้ตรงจุด

PANYA SOCIETY

TGAT ออกอะไรบ้าง? อัปเดตล่าสุด 2568 พร้อมเทคนิคอ่านให้ตรงจุด

TGAT ออกอะไรบ้าง

สวัสดีครับน้อง ๆ ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS นะครับ วันนี้พี่ Panya Society จะพามาดูว่า TGAT ออกอะไรบ้าง เพื่อช่วยน้อง ๆ อ่านหนังสือได้ดีขึ้น ขอบอกเลยว่าน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย จำเป็นรู้ว่า TGAT ออกอะไรบ้าง สถิติออกสอบเป็นอย่างไร และควรเน้นบทไหนดี เพื่อให้อ่านหนังสือได้ถูกทางมากขึ้น และพร้อมสอบมากยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

TGAT ความถนัดทั่วไป ออกสอบทั้งหมด 3 พาร์ตใหญ่ รวมทั้งหมด 200 ข้อ โดยเป็นปรนัย 4 – 5 ตัวเลือก (บางข้ออาจต้องตอบหลายคำตอบ)

จากสถิติที่ผ่านมา หัวข้อที่ออกเยอะ ได้แก่

  • TGAT1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ ออกปีละ 60 ข้อ
    หัวข้อที่ออกบ่อย : บทสนทนา, Cloze test
  • TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล ออกปีละ 80 ข้อ
    หัวข้อที่ออกบ่อย : การอ่านจับใจความ, คณิตศาสตร์พื้นฐาน, มิติสัมพันธ์, การใช้ตรรกะ
  • TGAT3 สมรรถนะการทำงาน ออกปีละ 60 ข้อ
    หัวข้อที่ออกบ่อย : การตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ, การแก้ปัญหาตามสถาณการณ์, การจัดการอารมณ์

สถิติออกสอบ TGAT

เรามาดูกันว่า TGAT ออกอะไรบ้าง โดยจะออกสอบทั้งหมด 3 พาร์ต รวมทั้งหมด 200 ข้อ วันนี้พี่ Panya Society จึงจะพาน้อง ๆ มาดูสถิติออกสอบ TGAT ว่าออกอะไรบ้าง พาร์ตไหนออกเยอะหรือออกน้อยบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมสอบ TCAS ดังนี้ 

บทTPAT3 66TPAT3 67TPAT3 68
TGAT1 : การถาม–ตอบ101010
TGAT1 : เติมบทสนทนาแบบสั้น101010
TGAT1 : เติมบทสนทนาแบบยาว101010
TGAT1 : เติมข้อความในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์151515
TGAT1 : อ่านเพื่อจับใจความ151515
TGAT2 : ความสามารถทางภาษา202020
TGAT2 : ความสามารถทางตัวเลข202020
TGAT2 : ความสามารถทางมิติสัมพันธ์202020
TGAT2 : ความสามารถทางเหตุผล202020
TGAT3 : การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม151515
TGAT3 : การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน151515
TGAT3 : การบริหารจัดการอารมณ์151515
TGAT3 : การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม151515

 

มาถึงตรงนี้ น้อง ๆ คงจะเห็นแล้วว่า TGAT ออกอะไรบ้าง ขอเลยว่าเนื้อหา TGAT มีความหลากหลายมาก จำเป็นต้องใช้ความรู้จากหลายวิชา ดังนั้น น้อง ๆ จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ

TGAT เน้นบทไหนดี

หลังจากที่เรารู้แล้วว่า TGAT ออกอะไรบ้าง และมีสถิติออกสอบอย่างไร ต่อไปเราจะมาเจาะลึกไปทีละพาร์ตกันว่า พาร์ตไหนออกเรื่องอะไรบ่อย ควรเน้นหัวข้อไหนดี ไปดูกันเลย

TGAT1 : การสื่อสารภาษาอังกฤษ

หัวข้อที่ออกบ่อย และควรเน้นได้แก่

  • บทสนทนา
  • Cloze test

TGAT2 : การคิดอย่างมีเหตุผล

หัวข้อที่ออกบ่อย และควรเน้นได้แก่

  • การอ่านจับใจความ
  • คณิตศาสตร์พื้นฐาน
  • มิติสัมพันธ์
  • การใช้ตรรกะ

TGAT3 : สมรรถนะการทำงาน

หัวข้อที่ออกบ่อย และควรเน้นได้แก่

  • การตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ
  • การแก้ปัญหาตามสถาณการณ์
  • การจัดการอารมณ์

มาถึงจุดนี้น้อง ๆ ก็จะได้รู้แล้วว่า TGAT ออกอะไรบ้าง และพาร์ตไหนควรเน้นหัวข้ออะไรบ้าง หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ วางแผนอ่านหนังสือได้ดีขึ้นนะครับ

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับน้อง ๆ ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะช่วยให้น้อง ๆ ได้รู้ว่า TGAT ออกอะไรบ้าง เพื่อให้น้อง ๆ วางแผนอ่านหนังสือได้ดีขึ้นนะครับ แต่พี่ ๆ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่สถิติเท่านั้น ข้อสอบสามารถปรับเปลี่ยนไปได้เรื่อย ๆ ครับ และสำหรับน้อง ๆ คนที่ต้องเตรียมตัวสอบหลายวิชา อย่าลืมวางแผนเผื่อเวลาไว้สำหรับวิชาอื่นกันด้วยนะครับ

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้แล้วว่า TGAT ออกอะไรบ้าง สำหรับ TCAS นี้หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ อ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น และจะเห็นว่าหลายคณะ ต้องใช้คะแนนสอบค่อนข้างสูง น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส TGAT วิชาวัดความถนัดทั่วไป จาก PANYA SOCIETY ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

TPAT3 ออกอะไรบ้าง

สรุปฟิสิกส์ A-Level

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

TGAT คืออะไร สอบอะไรบ้าง เตรียมตัวอย่างไร เน้นเรื่องไหนดี สิ่งที่ #DEK69 ต้องรู้

PANYA SOCIETY

TGAT คืออะไร สอบอะไรบ้าง เตรียมตัวอย่างไร เน้นเรื่องไหนดี สิ่งที่ #DEK69 ต้องรู้

ทำความรู้จัก TGAT

สวัสดีครับน้อง ๆ #Dek69 ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TGAT นะครับ สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้จัก TGAT วันนี้พี่ Panya Society จะพาไปรู้จักกับ TGAT อย่างละเอียดในทุก ๆ มุม และจะแนะนำแผนการอ่านหนังสืออีกด้วย เพื่อช่วยน้อง ๆ #Dek69 ให้อ่านหนังสือได้ดีขึ้น ขอบอกเลยว่า #Dek69 ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน จำเป็นต้องรู้จัก TGAT เพราะเป็นวิชาที่สำคัญมาก ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

TGAT คืออะไร

ในการจะสมัครเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย โดยทั่วไปจะต้องสมัครผ่านทางระบบ TCAS69 ซึ่งน้อง ๆ จะต้องสอบข้อสอบกลางจำนวนหลายชุด เพื่อใช้ยื่นในระบบ TCAS69 และหนึ่งในข้อสอบกลางที่น้องจะต้องสอบก็คือ ข้อสอบ TGAT

TGAT ย่อมาจาก Thailand General Aptitude Test หรือชื่อภาษาไทยคือ ความถนัดทั่วไป เป็นข้อสอบที่จะวัดความสามารถทั่วไปที่จะนำไปใช้เรียนต่อในมหาวิทยาลัย รวมไปถึงการทำงานต่อในอนาคต

เรื่องที่ข้อสอบ TGAT ต้องการทดสอบ ได้แก่
– การสื่อสารภาษาอังกฤษ
– การสื่อสารภาษาไทย
– คณิตศาสตร์พื้นฐานและความสัมพันธ์ของตัวเลข
– การมองมิติสัมพันธ์และความสัมพันธ์ของรูปภาพ
– การคิดโดยใช้หลักเหตุผล
– ความคิดเชิงนวัตกรรม
– การแก้ไขปัญหา
– การจัดการอารมณ์
– การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม

จะเห็นว่าทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่น้อง ๆ จำเป็นต้องมี เพื่อให้สามารถเรียนและทำงานต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อสอบ TGAT จึงจะทดสอบน้อง ๆ ในเรื่องเหล่านี้

TGAT สอบอะไรบ้าง

ข้อสอบ TGAT มีทั้งหมด 200 ข้อ คะแนนรวม 300 คะแนน ใช้เวลาทำข้อสอบรวม 3 ชั่วโมง
*** การคิดคะแนน TGAT จะปรับคะแนนเต็มเป็น 100 คะแนน โดยเอาคะแนนของ TGAT แต่ละส่วนมาเฉลี่ยกัน

TGAT แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

TGAT1 : การสื่อสารภาษาอังกฤษ

   จำนวนข้อ : 60 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 4 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ โดยจะเน้นไปที่การสื่อสารเป็นหลัก ลักษณะโจทย์จะเป็นบทสนนา การเติมเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ และการอ่านจับใจความ แบ่งเป็น 2 ด้าน

                       1.) ทักษะการพูด (Speaking Skill) 30 ข้อ

                       2.) ทักษะการอ่าน (Reading Skill) 30 ข้อ
  

TGAT2 : การคิดอย่างมีเหตุผล

   จำนวนข้อ : 80 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดทักษะการคิด การจินตนาการ การหาความสัมพันธ์ และวัดตรรกะ และด้วยจำนวนข้อสอบที่เยอะแต่กลับมีเวลาทำน้อย จึงถือเป็น speed test เช่นกัน ข้อสอบแบ่งเป็น 4 ด้าน

                       1.) ความสามารถทางภาษา 20 ข้อ

                       2.) ความสามารถทางตัวเลข 20 ข้อ

                       3.) ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ 20 ข้อ

                       4.) ความสามารถทางเหตุผล 20 ข้อ
  

TGAT3 : สมรรถนะการทำงาน

   จำนวนข้อ : 60 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   รูปแบบข้อสอบ :

                        แบบที่ 1 : ข้อสอบ 1 ข้อ มี 4 ตัวเลือก โดยเลือกตอบได้หลายตัวเลือก ให้เลือกฝนเฉพาะตัวเลือกที่ถูก
                                 – ฝนตัวเลือกที่ถูก จะได้ 0.25 คะแนน
                                 – ไม่ฝนตัวเลือกที่ผิด จะได้ 0.25 คะแนน

                        แบบที่ 2 : เป็นปรนัย 4 ตัวเลือก แต่ละตัวเลือกจะมีคะแนนไม่เท่ากัน โดยคะแนนจะลดหลั่นลงตามความถูกต้องของตัวเลือก ตั้งแต่ 0 – 1 คะแนน

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความคิด ทัศนคติ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหาในการทำงาน การจัดการอารมณ์ และการอยู่รวมกับผู้อื่น โดยคำตอบไม่ได้มีผิดหรือถูกชัดเจน แต่จะให้คะแนนตามความเหมาะสมของตัวเลือกที่น้อง ๆ เลือก ซึ่งข้อสอบแบ่งเป็น 4 ด้าน

                       1.) การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม 15 ข้อ

                       2.) การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน 15 ข้อ

                       3.) การบริหารจัดการอารมณ์ 15 ข้อ

                       4.) การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม 15 ข้อ

มาถึงจุดนี้น้อง ๆ #Dek69 ก็จะได้รู้แล้วว่า TGAT ทั้ง 3 ส่วน สอบอะไรบ้างโดยคร่าว ๆ และพี่ Panya Society แนะนำว่าใครถนัดส่วนไหนก็ให้เน้นไปที่ส่วนนั้นให้ได้คะแนนเยอะที่สุด แต่ส่วนอื่น ๆ ที่อาจไม่ถนัดมากก็ไม่ควรทิ้ง เพราะ TGAT จะคิดคะแนนเฉลี่ยรวมทั้ง 3 ส่วน

TGAT เตรียมตัวอย่างไร เน้นเรื่องไหนดี

ก่อนที่จะไปเตรียมตัวทำข้อสอบ TGAT เรามาดูสถิติคะแนน TGAT ของปีที่ผ่านมากันก่อน เพื่อให้น้อง ๆ #Dek69 จะได้ตั้งเป้าหมายคะแนนได้ง่ายขึ้น

สถิติคะแนน TGAT 68

จะเห็นว่าการทำคะแนน TGAT ได้เพิ่มขึ้นอีกเพียง 10 คะแนน จะทำให้น้อง ๆ ชนะคนอื่นได้อีกหลายหมื่นคน ดังนั้น มาวางแผนเตรียมตัวและตั้งเป้าหมายคะแนน TGAT กันเลย

เตรียมตัวสอบ TGAT อย่างไรดี?

1. ตั้งเป้าหมายคะแนน TGAT รวม
– ตั้งให้สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำของคณะที่น้องอยากเข้า เพื่อให้ TGAT ช่วยดึงคะแนนขึ้น

2. ตั้งเป้าหมายคะแนน TGAT แต่ละส่วน 
– ตั้งเป้าคะแนน TGAT1 TGAT2 TGAT3 ตามความถนัดของน้อง ๆ
– ให้คะแนนเฉลี่ยของทั้ง 3 ส่วน เป็นไปตามเป้าหมาย
– ดูสถิติคะแนน TGAT ของปีที่ผ่าน ๆ มา เพื่อให้ตั้งเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

TGAT1 มีคะแนนเฉลี่ยประมาณ 40 คะแนน

– ใครถนัดภาษาอังกฤษสามารถตั้งเป้า 80+ ได้เลย จะได้ช่วยดึงส่วนอื่นขึ้นเยอะ ๆ 
– ส่วนใครไม่ถนัดลองพยายามทำให้ได้ 60+ พี่เชื่อว่าน้องทำได้

TGAT2 มีคะแนนเฉลี่ยประมาณ 44 คะแนน
– ถ้าฝึกทำโจทย์เยอะ ๆ สามารถตั้งเป้า 65+ ได้เลย

TGAT3 มีคะแนนเฉลี่ยสูงมาก ประมาณ 63 คะแนน
– คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ ตั้งเป้า 70+ ไว้ก่อน 

3. เน้นอ่านให้ตรงจุด
เรามาดูกันว่า TGAT แต่ละส่วนควรเน้นเรื่องอะไรบ้าง

TGAT1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ
– เน้นพาร์ต speaking conversation
– อ่าน choice ก่อน เพื่อเดาประเภทคำถาม 

TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล
– ภาษาไทย เน้นเก็บเเต้มพาร์ตการอ่าน 
– ด้านตัวเลข มิติสัมพันธ์ และเหตุผล เน้นการเจอโจทย์หลายแนว

TGAT3 สมรรถนะการทำงาน
– ใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาคำตอบ
– เน้นตอบตรงตามตำรา ไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัว

ตอนนี้น้อง ๆ ก็ได้ตั้งเป้าคะแนน และรู้จุดที่ควรเน้นในการสอบ TGAT แล้ว พี่ Panya Society หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ เตรียมตัวสอบ TGAT ได้ง่ายขึ้น

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ TGAT

สมัครสอบ TGAT อย่างไร?
ตอบ : ลงทะเบียนกับ MyTCAS ที่ https://student.mytcas.com และสมัครสอบ TGAT ในระบบ 

TGAT สอบวันไหน?
ตอบ : ประมาณต้น – กลาง เดือน ธ.ค. 68

ตอนสอบ TGAT แจกข้อสอบพร้อมกันทั้ง 3 พาร์ตไหม?
ตอบ : ข้อสอบ TGAT แจกข้อสอบพร้อมกันทั้ง 3 พาร์ต น้องสามารถบริหารเวลาได้ตามความถนัด

ต้องสอบ TGAT ทุกคนไหม?
ตอบ : อาจมีบางคณะที่ไม่ใช้คะแนน TGAT แต่คณะส่วนใหญ่ต้องใช้ แนะนำให้สอบทุกคนครับ

ต้องสอบ TGAT ทั้ง 3 พาร์ตไหม?
ตอบ : อาจมีบางคณะใช้คะแนน TGAT แค่บางพาร์ต แต่คณะส่วนใหญ่ต้องใช้ครบทั้ง 3 พาร์ต แนะนำให้สอบครบทั้ง 3 พาร์ตครับ

TGAT ต้องไปสอบที่ไหน?
ตอบ : ตอนที่น้องสมัครสอบ TGAT จะมีให้เลือกสนามสอบได้ 3 อันดับ ตามที่น้องแต่ละคนสะดวกครับ

TGAT สอบแบบกระดาษหรือแบบคอมพิวเตอร์?
ตอบ : มีให้เลือกสอบทั้ง 2 รูปแบบ น้องสามารถเลือกตามความถนัดได้เลยครับ

ใครสอบ TGAT ได้บ้าง?
ตอบ : จะสอบได้ต้องเป็นนักเรียนที่กำลังเรียนชั้น ม.6 หรือเทียบเท่าขึ้นไป น้อง ๆ ม.4-5 ยังสอบไม่ได้ครับ

TGAT ใช้ยื่นคณะอะไรได้บ้าง?
ตอบ : ใช้ยื่นได้แทบทุกคณะ มีเพียงบ้างคณะเท่านั้นที่ไม่ใช้คะแนน TGAT

แต่ละคณะใช้คะแนนกี่เปอร์เซ็นต์?
ตอบขึ้นอยู่กับแต่ละคณะ มีตั้งแต่ 10% จนไปถึง 90%

คะแนน TGAT อยู่ได้กี่ปี?
ตอบ : คะแนน TGAT มีอายุเพียง 1 ปี หากต้องการซิ่ว ต้องสอบใหม่ทุกปี

พี่ Panya Society หวังว่าคำถามเกี่ยวกับ TGAT เหล่านี้จะตรงใจน้อง ๆ นะครับ และใครที่มีคำถามเพิ่มเติมสามารถทักมาถามพี่ ๆ ได้ตลอดเวลาเลยครับ 

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับน้อง ๆ #Dek69 ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะช่วยให้น้อง ๆ ได้รู้จัก TGAT มากขึ้น เพื่อให้น้อง ๆ เตรียมตัวสอบ TGAT ได้ง่ายขึ้น และได้คะแนนตามเป้าหมายที่วางไว้กันนะครับ แต่พี่ ๆ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าข้อมูลและแผนการเตรียมตัวอ่านหนังสือนี้ เป็นการคาดการณ์จากตัวเลขค่าเฉลี่ยเท่านั้น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความถนัดของน้อง ๆ เอง และสำหรับน้อง ๆ คนที่ต้องเตรียมตัวสอบหลายวิชา อย่าลืมวางแผนเผื่อเวลาไว้สำหรับวิชาอื่นกันด้วยนะครับ

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้จัก TGAT และวางแผนเตรียมตัวอ่าน TGAT สำหรับ TCAS69 นี้หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ อ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น และหลายคณะต้องใช้คะแนนสอบค่อนข้างสูง น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส “TGAT วิชาวัดความถนัดทั่วไป (Thai General Aptitude Test) จาก PANYA SOCIETY” ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TGAT ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด มีเนื้อหาที่จำเป็นสำหรับสอบ TGAT ครบถ้วน พร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS69 จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

TCAS คืออะไร

แผนการอ่านฟิสิกส์

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

TCAS มีข้อสอบอะไรบ้าง อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยต้องรู้

PANYA SOCIETY

TCAS มีข้อสอบอะไรบ้าง อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยต้องรู้

TCAS มีข้อสอบอะไรบ้าง

ทำความรู้จักข้อสอบ TCAS

สวัสดีครับน้อง ๆ #Dek69 ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS69 นะครับ โดยวันนี้เราจะมาดูกันว่าข้อสอบ TCAS69 มีข้อสอบอะไรบ้าง พี่ Panya Society ขอบอกเลยว่า #Dek69 ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน จำเป็นต้องรู้ว่า TCAS69 มีข้อสอบอะไรบ้าง เพื่อให้พร้อมสอบได้ทันในอีก 1 ปี ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

ข้อสอบ TCAS

MENU

TGAT

สำหรับข้อสอบ TCAS หนึ่งในข้อสอบที่น้อง ๆ จะเจอก็คือ TGAT : ความถนัดทั่วไป (Thai General Apititude Test) ซึ่งแบ่งการสอบเป็น 3 ส่วน โดยสามารถเลือกสอบเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ แต่พี่ Panya Society แนะนำให้น้อง ๆ ลงสอบไว้ทั้ง 3 ส่วน เพราะส่วนมากจะใช้คะแนน TGAT รวม เป็นเกณฑ์การคิดคะแนน

รูปแบบการสอบ : เลือกแบบคอมพิวเตอร์ หรือแบบกระดาษ

สนามสอบ : เลือกได้ 5 อันดับ

ซึ่งข้อสอบ TGAT ทั้ง 3 ส่วน มีดังนี้   

TGAT1 : การสื่อสารภาษาอังกฤษ

   จำนวนข้อ : 60 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 60 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 4 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ โดยจะเน้นไปที่การสื่อสารเป็นหลัก ลักษณะโจทย์จะเป็นบทสนนา การเติมเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ และการอ่านจับใจความ แบ่งเป็น 2 ด้าน

                       1.) ทักษะการพูด (Speaking Skill)

                       2.) ทักษะการอ่าน (Reading Skill)
  

TGAT2 : การคิดอย่างมีเหตุผล

   จำนวนข้อ : 80 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 60 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดทักษะการคิด การจินตนาการ การหาความสัมพันธ์ และวัดตรรกะ และด้วยจำนวนข้อสอบที่เยอะแต่กลับมีเวลาทำน้อย จึงถือเป็น speed test เช่นกัน ข้อสอบแบ่งเป็น 4 ด้าน

                       1.) ความสามารถทางภาษา

                       2.) ความสามารถทางตัวเลข

                       3.) ความสามารถทางมิติสัมพันธ์

                       4.) ความสามารถทางเหตุผล
  

TGAT3 : สมรรถนะการทำงาน

   จำนวนข้อ : 60 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 60 นาที

   รูปแบบข้อสอบ :

                        แบบที่ 1 : ข้อสอบ 1 ข้อ มี 4 ตัวเลือก โดยเลือกตอบได้หลายตัวเลือก ให้เลือกฝนเฉพาะตัวเลือกที่ถูก
                                 – ฝนตัวเลือกที่ถูก จะได้ 0.25 คะแนน
                                 – ไม่ฝนตัวเลือกที่ผิด จะได้ 0.25 คะแนน

                        แบบที่ 2 : เป็นปรนัย 4 ตัวเลือก แต่ละตัวเลือกจะมีคะแนนไม่เท่ากัน โดยคะแนนจะลดหลั่นลงตามความถูกต้องของตัวเลือก ตั้งแต่ 0 – 1 คะแนน

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความคิด ทัศนคติ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหาในการทำงาน การจัดการอารมณ์ และการอยู่รวมกับผู้อื่น โดยคำตอบไม่ได้มีผิดหรือถูกชัดเจน แต่จะให้คะแนนตามความเหมาะสมของตัวเลือกที่น้อง ๆ เลือก ซึ่งข้อสอบแบ่งเป็น 4 ด้าน

                       1.) การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม

                       2.) การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน

                       3.) การบริหารจัดการอารมณ์

                       4.) การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม

* คะแนน TGAT รวม จะคิดจากคะแนนเฉลี่ยของ TGAT ทั้ง 3 ส่วน *

TPAT

อีกหนึ่งข้อสอบที่น้องจะเจอในการสอบ TCAS ก็คือ TPAT : วัดความถนัดทางวิชาชีพ (Thai Professional Aptitude Test) ซึ่งแบ่งการสอบเป็น 5 ความถนัด โดยน้อง ๆ สามารถเลือกสอบได้ตามต้องการ พี่ Panya Society แนะนำให้น้อง ๆ ลงสอบเฉพาะความถนัดที่น้อง ๆ สนใจ เพราะคะแนน TPAT จะใช้กับคณะที่ต้องการความถนัดเฉพาะสาย เป็นเกณฑ์การคิดคะแนน

รูปแบบการสอบ : เลือกแบบคอมพิวเตอร์ หรือแบบกระดาษ (ยกเว้น TPAT1 สอบแบบกระดาษเท่านั้น)

สนามสอบ : เลือกได้ 5 อันดับ

ซึ่งข้อสอบ TPAT ทั้ง 5 ส่วน มีดังนี้ 

TPAT1 : ความถนัดแพทย์ (กสพท.)

   จำนวนข้อ : 140 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 300 คะแนน

   เวลาสอบ : 3 ชั่วโมง 15 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก / ฝนรหัสคำตอบ

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบที่จะวัดทักษะต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหลับการเรียนสายแพทย์ นอกเหนือจากความรู้ทางด้านวิชาการ ได้แก่ การคิดวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ จรรยาบรรณแพทย์ การแก้ปัญหา และการคิดเชื่อมโยง (คล้าย GAT เชื่อมโยงแบบเดิม) โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน

                       1.) เชาว์ปัญญา จำนวน 45 ข้อ เวลาสอบ 75 นาที

                       2.) จริยธรรม จำนวน 75 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที

                       3.) เชื่อมโยง จำนวน 20 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที

TPAT2 : ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์

   จำนวนข้อ : 150 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 3 ชั่วโมง

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 4 ตัวเลือก 

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบที่จะวัดทักษะด้านศิลปะต่าง ๆ โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน (สามารถเลือกสอบเฉพาะด้านที่สนใจได้)

                       1.) ทัศนศิลป์ จำนวน 50 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน

                       2.) ดนตรี จำนวน 50 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน

                       3.) นาฎศิลป์ จำนวน 50 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน

* คะแนน TPAT2 รวม จะคิดจากคะแนนเฉลี่ยของ TPAT2 ทั้ง 3 ส่วน *

TPAT3 : ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์

   จำนวนข้อ : 70 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 3 ชั่วโมง

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบที่จะวัดทักษะต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหลับการเรียนวิศวกรรมศาสตร์ ได้แก่ การคิดวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ ความรู้เชิงกลและฟิสิกส์ ความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ และการรู้ททันข่าวสารทางวิทยาศาสตร์ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน

                       1.) การทดสอบความถนัด (aptitude test) ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์

                       2.) การทดสอบความคิดและความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์

TPAT4 : ความถนัดทางสถาปัตยกรรม

   จำนวนข้อ : 80 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 3 ชั่วโมง

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบที่จะวัดทักษะต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหลับการเรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์ ได้แก่ การออกแบบ สีและความงาม โครงสร้างทางสถาปัตยกรรม และมิติสัมพันธ์

TPAT5 : ความถนัดครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์

   จำนวนข้อ : 100 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 3 ชั่วโมง

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบที่จะวัดทักษะต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหลับการเป็นครู นอกเหนือจากความรู้วิชาการ ได้แก่ การสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การอยู่รวมกับผู้อื่น และทัศนคติที่เหมาะสมกับอาชีพครู โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน

                       1.) ความสามารถพื้นฐานทางวิชาชีพครู

                       2.) คุณลักษณะความเป็นครู

A-Level

อีกหนึ่งข้อสอบสำคัญที่น้องจะเจอในการสอบ TCAS ก็คือ A-Level : ข้อสอบวัดความรู้ประยุกต์ (Applied Knowledge Level) ซึ่งแบ่งการสอบเป็น 9 วิชา โดยน้อง ๆ สามารถเลือกสอบได้ตามต้องการ พี่ Panya Society แนะนำให้น้อง ๆ ลงสอบเฉพาะวิชาในสายที่น้อง ๆ สนใจ เพราะแต่ละคณะ จะใช้คะแนน A-Level เพียงไม่กี่วิชา (ยกเว้นสายแพทย์ ที่ใช้เกือบทุกวิชา) เป็นเกณฑ์การคิดคะแนน

รูปแบบการสอบ : แบบกระดาษ

สนามสอบ : เลือกได้ 5 อันดับ

ซึ่งข้อสอบ A-Level มีดังนี้ 

A-Level Math1 : วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1

   จำนวนข้อ : 30 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 25 ข้อ / ฝนตัวเลขคำตอบ 5 ข้อ

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ทั้งพื้นฐาน และเพิ่มเติม โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน การวิเคราะห์โจทย์ และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

A-Level Math2 : วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2

   จำนวนข้อ : 30 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 25 ข้อ / ฝนตัวเลขคำตอบ 5 ข้อ

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์พื้นฐาน โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน การวิเคราะห์โจทย์ และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

A-Level Sci : วิทยาศาสตร์ประยุกต์

   จำนวนข้อ : 30 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

  รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 26 ข้อ / ข้อสอบ 1 ข้อ มี 3 ข้อย่อย จำนวน 4 ข้อ (ตอบถูกทั้ง 3 ข้อ ได้คะแนนเต็ม ตอบถูก 2 ข้อ ได้คะแนนครึ่งเดียว ตอบถูก 0 – 1 ข้อ ไม่ได้คะแนน)

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน และตีความโจทย์

A-Level Phy : ฟิสิกส์

   จำนวนข้อ : 30 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 25 ข้อ / ฝนตัวเลขคำตอบ 5 ข้อ

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านฟิสิกส์ โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน การวิเคราะห์โจทย์ และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

A-Level Chem : เคมี

   จำนวนข้อ : 35 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 30 ข้อ / ฝนตัวเลขคำตอบ 5 ข้อ

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านเคมี โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน การวิเคราะห์โจทย์ และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

A-Level Bio : ชีววิทยา

   จำนวนข้อ : 40 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก 35 ข้อ / ข้อสอบ 1 ข้อ มี 3 ข้อย่อย จำนวน 5 ข้อ (ตอบถูกทั้ง 3 ข้อ ได้คะแนนเต็ม ตอบถูก 2 ข้อ ได้คะแนนครึ่งเดียว ตอบถูก 0 – 1 ข้อ ไม่ได้คะแนน)

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านชีววิทยา โดยเน้นความเข้าใจพื้นฐาน และตีความโจทย์

A-Level Soc : สังคมศึกษา

   จำนวนข้อ : 50 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านสังคมศาสตร์ โดยเน้นการตีความโจทย์

A-Level Thai : ภาษาไทย

   จำนวนข้อ : 50 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านภาษาไทย โดยเน้นการตีความโจทย์ สรุปใจความสำคัญ

A-Level Eng : ภาษาอังกฤษ

   จำนวนข้อ : 80 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 4 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ ทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน

A-Level ภาษาต่างประเทศอื่น ๆ

   จำนวนข้อ : 50 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   เวลาสอบ : 90 นาที

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 4 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความรู้ทางด้านภาษาต่างประเทศอื่น ๆ มีให้เลือก 7 ภาษา (เลือกสอบได้เพียง 1 ภาษา) ได้แก่

                       – A-Level Fre : ภาษาฝรั่งเศส
                       – A-Level Ger : ภาษาเยอรมัน
                       – A-Level Jap : ภาษาญี่ปุ่น
                       – A-Level Kor : ภาษาเกาหลี
                       – A-Level Chi : ภาษาจีน 
                       – A-Level Bal : ภาษาบาลี
                       – A-Level Spn : ภาษาสเปน

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับ #Dek69 ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะตอบคำถามที่น้อง ๆ หลายคนสงสัยกันได้พอสมควรแล้วนะครับ แต่พี่ ๆ ต้องของบอกไว้ก่อนว่าข้อมูลข้างต้นที่นำมาเผยแพร่เป็นข้อมูลที่อ้างอิงจากปีก่อนหน้า ทำให้ข้อมูลอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ในอนาคต โดยทางทปอ.จะมีการแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ๆ ดังนั้นน้อง ๆ ควรต้องติดตามข่าวสารกันอย่างใกล้ชิด หรือจะติดตามจากทาง Panya Society ไว้ก็ได้ ถ้ามีข้อมูลอะไรอัพเดท พี่ ๆ จะรีบนำมาแจ้งให้น้อง ๆ ทุกทราบโดยเร็ว

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้จักกับข้อสอบ TCAS69 จะเห็นว่ามีข้อสอบเยอะมาก น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส “TCAS69 ทั้ง 6 วิชาจาก PANYA SOCIETY” ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS69 ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS69 จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

💬 ปรึกษาแผนการเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ฟรี! คลิกเลย!

VDO ตัวอย่างการสอน

TCAS สายวิทย์

39 Videos

TCAS สายศิลป์

14 Videos

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

ทำความรู้จักระบบ TCAS

TCAS มีกี่รอบอะไรบ้าง

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

TAG :

SHARE: