PANYA SOCIETY

วางแผนอ่านหนังสือ TCAS68 วิชาฟิสิกส์เน้นบทไหนดี #DEK68

วิชาฟิสิกส์ เน้นบทไหนดี?

วางแผนอ่านหนังสือวิชาฟิสิกส์

สวัสดีครับน้อง ๆ #Dek68 ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS68 นะครับ หลังจากที่เราคนหาตัวตนเจอแล้วว่าอยากเข้าคณะอะไร เราก็จะมาวางแผนอ่านหนังสือ TCAS68 กันต่อเลย วันนี้พี่ Panya Society จะมาแนะนำแผนการอ่านหนังสือวิชาฟิสิกส์ เพื่อช่วยน้อง ๆ #Dek68 อ่านหนังสือได้ดีขึ้น ขอบอกเลยว่า #Dek68 ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน จำเป็นวางแผนอ่านหนังสือให้ดี เพื่อให้ไม่รู้สึกว่าอ่านหนักเกินไป และพร้อมสอบมากยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

สถิติออกสอบ A - Level ฟิสิกส์

ในการวางแผนอ่านหนังสือนั้น เราควรจะต้องรู้ว่าควรจะเน้นไปที่บทไหน วันนี้พี่ Panya Society จึงจะพาน้อง ๆ #Dek68 มาดูสถิติออกสอบ A – Level ฟิสิกส์ ว่าบทไหนออกเยอะหรือออกน้อยบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมสอบ TCAS68 ดังนี้ 

บทที่ออก 2 – 4 ข้อ ควรเน้น คือ

  • แรงและกฎการเคลื่อนที่
  • การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
  • แสงเชิงรังสี
  • ไฟฟ้าสถิต
  • ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
  • ความร้อนและแก๊ส
  • ฟิสิกส์อะตอม

บทที่ออก 1 – 2 ข้อ ควรเน้นบ้าง คือ

  • คลื่น
  • ไฟฟ้ากระแส
  • ของแข็งและของไหล
  • ฟิสิกส์นิวเคลียร์และฟิสิกส์อนุภาค

บทที่ออก 0 – 1 ข้อ ควรเน้นไม่มาก คือ

  • ธรรมชาติและพัฒนาการทางฟิสิกส์
  • การเคลื่อนที่แนวตรง
  • สมดุลกล
  • งานและพลังงาน
  • โมเมนตัมและการชน
  • การเคลื่อนที่แนวโค้ง
  • แสงเชิงคลื่น
  • เสียง
  • คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 

มาถึงตรงนี้ น้อง ๆ #Dek68 คงจะเห็นแล้วว่า บทไหนควรเน้นหรือไม่ควรเน้น แต่พี่ Panya Society ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า ถึงบางบทจะออกน้อย แต่ก็เป็นพื้นฐานในการนำไปใช้ต่อในบทอื่น ๆ ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเก็บเนื้อหาให้ได้ครบทุกบทนะครับ

คำนวณเวลาที่ต้องใช้อ่านทั้งหมด

ก่อนที่เราเริ่มอ่าน เรามาดูกันก่อนว่า วิชาฟิสิกส์มีเนื้อหาอะไรบ้าง และแต่ละบทจะต้องใช้เวลาอ่านมากหรือน้อยอย่างไร เพื่อจะได้วางแผนการอ่านได้ง่ายขึ้น

บทที่ 1 : ธรรมชาติและพัฒนาการทางฟิสิกส์

จะเรียนเกี่ยวกับประวัติของวิชาฟิสิกส์ รวมถึงพื้นฐานเกี่ยวกับวิชาฟิสิกส์

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  ไม่ต้องมีพื้นฐานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 8 ชั่วโมง

บทที่ 2 : การเคลื่อนที่แนวตรง

จะเรียนเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงของวัตถุต่าง ๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการเรียนบทอื่น ๆ อีกหลายบท

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  ไม่ต้องมีพื้นฐานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 9 ชั่วโมง

บทที่ 3 : แรงและกฎการเคลื่อนที่

จะเรียนเกี่ยวกับผลของแรงที่มีต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุ และได้รู้จักแรงชนิดต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งบทที่เป็นพื้นฐานสำคัญของอีกหลาย ๆ บท

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : การเคลื่อนที่แนวตรง

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 10 ชั่วโมง

บทที่ 4 : สมดุลกล

จะเรียนเกี่ยวกับวัตถุที่อยู่นิ่ง หรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ รวมไปถึงการล้มของวัตถุ

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  แรงและกฎการเคลื่อนที่

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 6 ชั่วโมง

บทที่ 5 : งานและพลังงาน

จะเรียนเกี่ยวกับพลังงานต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในวัตถุ และกฎเกี่ยวกับพลังงาน

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : แรงและกฎการเคลื่อนที่ 

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 9 ชั่วโมง

บทที่ 6 : โมเมนตัมและการชน

จะเรียนเกี่ยวกับปริมาณหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ และเรียนเกี่ยวกับการชนกันของวัตถุ 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  การเคลื่อนที่แนวตรง

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 7 ชั่วโมง

บทที่ 7 : การเคลื่อนที่แนวโค้ง

จะเรียนเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุในลักษณะเป็นเส้นโค้ง หรือเป็นวงกลม 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : การคลื่อนที่แนวตรง, แรงและกฎการเคลื่อนที่

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 6 ชั่วโมง

บทที่ 8 : การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย

จะเรียนเกี่ยวกับการเคลื่อนที่กลับไปกลับมาของวัตถุเมื่อวัตถุติดอยู่กับสปริง หรือถูกแกว่งด้วยเชือก 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : แรงและกฎการเคลื่อนที่, การเคลื่อนที่แนวโค้ง

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 4 ชั่วโมง

บทที่ 9 : คลื่น

จะเรียนเกี่ยวกับนิยามของคลื่น และสมบัติต่าง ๆ ของคลื่น 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : ไม่ต้องมีพื้นฐานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 8 ชั่วโมง

บทที่ 10 : แสงเชิงคลื่น

จะเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติของแสงเมื่อผ่านช่องแคบต่าง ๆ

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : คลื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 4 ชั่วโมง

บทที่ 11 : แสงเชิงรังสี

จะเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติของแสง และเรียนเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับแสง และการมองเห็นแสง

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : คลื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 10 ชั่วโมง

บทที่ 12 : เสียง

จะเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติต่าง ๆ ของเสียง การวัดระดับเสียง และปรากฏการณ์เกี่ยวกับเสียง

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : คลื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 8 ชั่วโมง

บทที่ 13 : ไฟฟ้าสถิต

จะเรียนเกี่ยวกับประจุไฟฟ้า แรงทางไฟฟ้า และพลังงานไฟฟ้า 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : ไม่ต้องมีพื้นฐบานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 8 ชั่วโมง

บทที่ 14 : ไฟฟ้ากระแส

จะเรียนเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของประจุไฟฟ้า ความต้านมานไฟฟ้า และวงจรไฟฟ้าในลักษณะต่าง ๆ

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : ไฟฟ้าสถิต

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 9 ชั่วโมง

บทที่ 15 : แม่เหล็กและไฟฟ้า

จะเรียนเกี่ยวกับผลของสนามแม่เหล็กที่มีต่อประจุไฟฟ้า และเรียนเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : ไฟฟ้าสถิต, ไฟฟ้ากระแส

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 10 ชั่วโมง

บทที่ 16 : ความร้อนและแก๊ส

จะเรียนเกี่ยวกับการถ่ายโอนพลังงานความร้อน และเรียนเกี่ยวกับพลังงานองแก๊ส

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : งานและพลังงาน

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 6 ชั่วโมง

บทที่ 17 : ของแข็งและของไหล

จะเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติของสสารทั้งของแข็งและของไหล 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : แรงและกฎการเคลื่อนที่

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 8 ชั่วโมง

บทที่ 18 : คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

จะเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และจำแนกประเภทของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : แม่เหล็กและไฟฟ้า

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 4 ชั่วโมง

บทที่ 19 : ฟิสิกส์อะตอม

จะเรียนเกี่ยวกับวิวัฒนาการของแบบจำลองอะตอมต่าง ๆ และปรากฎการณ์ที่ค้นพบ 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : งานและพลังงาน

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 6 ชั่วโมง

บทที่ 20 : ฟิสิกส์นิวเคลียร์และฟิสิกส์อนุภาค

จะเรียนเกี่ยวกับนิวเคลียสของอะตอมต่าง ๆ การสลายตัวของนิวเคลียสของธาตุที่ไม่เสถียร พลังงานในการยึดเหนี่ยวนิวเคลียส และเรียนเกี่ยวกับอนุภาคย่อย ๆ ของนิวเคลียส 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : งานและพลังงาน

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 6 ชั่วโมง

มาถึงจุดนี้น้อง ๆ #Dek68 ก็จะได้รู้แล้วว่า วิชาฟิสิกส์ ทั้ง 20 บทนี้ เรียนเกี่ยวกับอะไรโดยคร่าว ๆ และจุดที่พี่ Panya Society อยากให้น้องสนใจมากที่สุด ก็คือ เวลาที่ควรใช้อ่าน ซึ่งทั้ง 20 บทนี้ ใช้เวลาอ่านรวมทั้งหมดประมาณ 146 ชั่วโมง

วางแผนการเก็บคะแนน

จากผลคะแนน TCAS ของปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าบางคณะต้องได้คะแนน TCAS สูงมาก ๆ จึงจะสอบติด และวิชาฟิสิกส์ก็ถือเป็นวิชาสำคัญที่หลาย ๆ คณะเลือกใช้เป็นเกณฑ์ในการคิดคะแนน และ A – Level ฟิสิกส์ ก็มีสัดส่วนคะแนนค่อนข้างสูงในหลาย ๆ คณะ ดังนั้น น้อง ๆ  ควรตั้งเป้าหมายให้ได้ 70 คะแนนขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่า จะสามารถเข้าคณะที่ต้องการได้อย่างแน่นอน

พี่ Panya Society ขอแบ่งวิชาฟิสิกส์ ออกเป็น 5 กลุ่ม เพื่อให้น้อง ๆ ที่มีความถนัดในกลุ่มเนื้อหาต่าง ๆ ได้เลือกอ่านตามความถนัดของน้อง ๆ ดังนี้

1. กลศาสตร์

เป็นกลุ่มเนื้อหาหลักของวิชาฟิสิกส์ และครอบคลุมเนื้อหาของฟิสิกส์มากที่สุด น้อง ๆ ทุกคนควรเก็บคะแนนในส่วนนี้ให้ได้ ได้แก่

1) ธรรมชาติและพัฒนาการทางฟิสิกส์ : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

2) การเคลื่อนที่แนวตรง : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

3) แรงและกฎการเคลื่อนที่ : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

4) สมดุลกล : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

5) งานและพลังงาน : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

6) โมเมนตัมและการชน : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

7) การเคลื่อนที่แนวโค้ง : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

8) การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

รวม ออกสอบ 9 ข้อ คิดเป็น 27 คะแนน ใช้เวลาอ่านประมาณ 59 ชั่วโมง

2. คลื่น

เป็นเนื้อหาที่เหมาะกับน้อง ๆ ที่ถนัดในการมองลักษณะของคลื่น และสมบัติต่าง ๆ ของคลื่น ได้แก่

1) คลื่น : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

2) แสงเชิงคลื่น : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

3) แสงเชิงรังสี : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

4) เสียง : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

รวม ออกสอบ 6 ข้อ คิดเป็น 18 คะแนน ใช้เวลาอ่านประมาณ 30 ชั่วโมง

3. ไฟฟ้าและแม่เหล็ก

เป็นเนื้อหาที่เหมาะกับน้อง ๆ ที่ถนัดในสมบัติของประจุไฟฟ้า วงจรไฟฟ้า และสมบัติของสนามแม่เหล็ก ได้แก่

1) ไฟฟ้าสถิต : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

2) ไฟฟ้ากระแส : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

3) แม่เหล็กและไฟฟ้า : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

4) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

รวม ออกสอบ 6 ข้อ คิดเป็น 18 คะแนน ใช้เวลาอ่านประมาณ 31 ชั่วโมง

4. สสาร

เป็นเนื้อหาที่เหมาะกับน้อง ๆ ที่ถนัดในสมบัติของสสารต่าง ๆ ทั้งของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ได้แก่

1) ความร้อนและแก๊ส : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

2) ของแข็งและของไหล : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

รวม ออกสอบ 4 ข้อ คิดเป็น 12 คะแนน ใช้เวลาอ่านประมาณ 14 ชั่วโมง

5. ฟิสิกส์แผนใหม่

เป็นเนื้อหาที่เหมาะกับน้อง ๆ ที่ถนัดในการมองลักษณะของอะตอม และนิวเคลียร์สของธาตุต่าง ๆ ซึ่งเนื้อหาในส่วนนี้ไม่เยอะ และไม่ได้ยากมาก ควรเก็บคะแนนให้ได้ ได้แก่

1) ฟิสิกส์อะตอม : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

2) ฟิสิกส์นิวเคลียร์และฟิสิกส์อนุภาค : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

รวม ออกสอบ 4 ข้อ คิดเป็น 12 คะแนน ใช้เวลาอ่านประมาณ 12 ชั่วโมง

จาก 5 กลุ่มวิชานี้ น้อง ๆ ควรเลือกอ่าน

  • กลศาสตร์
  • ฟิสิกส์สมัยใหม่
  • ส่วนเนื้อหากลุ่ม คลื่นไฟฟ้าและแม่เหล็ก , สสาร ให้เลือกอ่าน 2 กลุ่ม ตามความถนัดของน้อง ๆ

เพียงเท่านี้ก็จะได้คะแนนประมาณ 70 คะแนน ได้ไม่ยากมาก 

และหากยังมีเวลาเหลือก็ควรอ่านอีกกลุ่มเนื้อหาที่เหลือไปด้วย เพื่อให้ได้คะแนนเพิ่มขึ้นไปอีกครับ

วางแผนแบ่งเวลาอ่านฟิสิกส์

สำหรับน้อง ๆ #Dek68 พี่ Panya Society อยากให้น้อง ๆ เผื่อเวลาไว้ฝึกทำข้อสอบจริง อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนสอบ ดังนั้น น้อง ๆ จะมีเวลาเก็บเนื้อหาทั้งหมดถึงสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ 67 เท่านั้น

เราได้รู้แล้วว่า ควรต้องใช้เวลาอ่านเนื้อหาฟิสิกส์ทั้งหมดประมาณ 146 ชั่วโมง สำหรับวิชาฟิสิกส์เป็นวิชาที่จะต้องทำความเข้าใจในเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้สามารถทำโจทย์ที่มีการประยุกต์ได้ และการฝึกทำโจทย์ก็จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองครับ

การแบ่งเวลาอ่านหนังสือในแต่ละวัน จึงขึ้นอยู่กับว่า น้องเหลือเวลาอ่านอีกกี่วัน

เริ่มอ่านเดือน มิถุนายน (ช่วงเปิดเทอม 1)

เหลือเวลาอ่าน : 9 เดือน

เนื้อหาที่ควรอ่าน : ทุกบท

ควรอ่านวันละ : 30 นาที

เริ่มอ่านเดือน ตุลาคม (ช่วงปิดเทอมเล็ก)

เหลือเวลาอ่าน : 5 เดือน

เนื้อหาที่ควรอ่าน : ทุกบท

ควรอ่านวันละ : 1 ชั่วโมง

เริ่มอ่านเดือน ธันวาคม

เหลือเวลาอ่าน : 3 เดือน

เนื้อหาที่ควรอ่าน : ทุกบท

ควรอ่านวันละ : 2 ชั่วโมง

เริ่มอ่านเดือน มกราคม 

เหลือเวลาอ่าน : 2 เดือน

เนื้อหาที่ควรอ่าน : อ่าน 4 กลุ่มเนื้อหาที่ถนัด

ควรอ่านวันละ : 3 ชั่วโมง

เริ่มอ่านเดือน กุมภาพันธ์ 

เหลือเวลาอ่าน : 1 เดือน

เนื้อหาที่ควรอ่าน : อ่าน 4 กลุ่มเนื้อหาที่ถนัด

ควรอ่านวันละ : 4 ชั่วโมง

พี่ Panya Society ไม่แนะนำให้น้อง ๆ อ่านเกินวันละ 4 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้สมองล้า และอ่านได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ควรเริ่มอ่านให้เร็วที่สุด เพื่อให้ได้ทยอยอ่านวันละนิด ไม่หักโหมมาก และลดความกดดันในการอ่านได้อีกด้วย

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับ #Dek68 ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะช่วยให้น้อง ๆ ได้วางแผนในการอ่านหนังสือวิชาฟิสิกส์ เพื่อให้น้อง ๆ ได้คะแนนตามที่หวังกันนะครับ แต่พี่ ๆ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าแผนการอ่านหนังสือนี้ เป็นการคาดการณ์จากตัวเลขค่าเฉลี่ยเท่านั้น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความถนัดของน้อง ๆ เอง และสำหรับน้อง ๆ คนที่ต้องเตรียมตัวสอบหลายวิชา อย่าลืมวางแผนเผื่อเวลาไว้สำหรับวิชาอื่นกันด้วยนะครับ

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้วางแผนการอ่านฟิสิกส์ สำหรับ TCAS68 นี้หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ อ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น และจะเห็นว่าหลายคณะ ต้องใช้คะแนนสอบค่อนข้างสูง น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส “ฟิสิกส์ A – Level TCAS68 จาก PANYA SOCIETY” ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS68 ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS68 จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

ฟิสิกส์ A-Level

30 Videos

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

แผนการอ่านคณิต

แผนการอ่านเคมี

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE: