รวมเกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ ของแต่ละมหาวิทยาลัย ใช้สัดส่วนเท่าไหร่มาดูกัน!

PANYA SOCIETY

รวมเกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ ของแต่ละมหาวิทยาลัย ใช้สัดส่วนเท่าไหร่มาดูกัน!

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ

สวัสดีครับน้อง ๆ ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ วิศวะฯ นะครับ หลังจากที่เราค้นหาตัวตนเจอแล้วว่าอยากเข้าคณะอะไร สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจจะเรียนวิศวะฯ วันนี้พี่ Panya Society จะพามาดูเกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ ของแต่ละมหาวิทยาลัย เพื่อช่วยให้น้อง ๆ ได้รู้ว่าจะเข้าเรียนวิศวะต้องสอบอะไรบ้าง และวิชาไหนที่ควรให้ความสำคัญมากกว่ากัน ทำให้สอบติดวิศวะฯ ได้ง่ายขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

สาขาวิศวะฯTGATTPAT3A-Level คณิตฯ 1A-Level ฟิสิกส์A-Level เคมีA-Level อังกฤษ
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์20%25%25%30%
วิศวกรรมไฟฟ้า20%25%25%30%
วิศวกรรมอุตสาหการ20%25%25%30%
วิศวกรรมพลังงาน (หลักสูตรนานาชาติ)15%25%20%20%20%
วิศวกรรมเครื่องกล20%25%25%30%
วิศวกรรมโยธา20%25%25%30%
วิศวกรรมชีวการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ)20%25%20%20%15%
วิศวกรรมเคมี20%25%25%30%
วิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และการเป็นผู้ประกอบการ (หลักสูตรนานาชาติ)20%25%20%20%15%
วิศวกรรมการเงิน (หลักสูตรนานาชาติ)20%25%35%20%

จากตารางคณะวิศกรรมศาสตร์ของ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มีจุดสังเกตดังนี้

– สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ ไม่ใช้คะแนน A-Level ชีววิทยา

– สาขาวิศวกรรมเคมี ไม่ใช้คะแนน A-Level เคมี

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

สาขาวิศวะฯTGATTPAT3A-Level คณิตฯ 1A-Level คณิตฯ 2A-Level ฟิสิกส์A-Level เคมีA-Level อังกฤษ
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์25%25%20%10%20%
วิศวกรรมไฟฟ้า25%25%20%10%20%
วิศวกรรมอุตสาหการ30%30%20%20%
วิศวกรรมโลจิสติกส์20%30%20%20%10%
วิศวกรรมไฟฟ้าอุตสาหกรรมและพลังงาน20%30%20%20%5%5%
วิศวกรรมวัสดุ20%30%15%15%15%5%
วิศวกรรมเครื่องกล20%30%20%20%5%5%
วิศวกรรมโยธา (รับเฉพาะจบ ปวช.)15%15%30%30%10%
วิศวกรรมเคมี50%50%
วิศวกรรมการบินและอวกาศ20%30%20%20%5%5%

จากตารางคณะวิศกรรมศาสตร์ของ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มีจุดสังเกตดังนี้

– สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ไม่ใช้คะแนน TGAT

– สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าอุตสาหกรรมและพลังงาน ใช้ทั้งคะแนน A-Level คณิตศาสตร์ 1 และ A-Level คณิตศาสตร์ 2

– สาขาวิศวกรรมวัสดุ ใช้คะแนน A-Level คณิตศาสตร์ 2 ไม่ใช้ A-Level คณิตศาสตร์ 1

– สาขาวิศวกรรมเคมี ใช้เพียงคะแนน TGAT และ TPAT3 เท่านั้น

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

สาขาวิศวะฯTGATTPAT3A-Level คณิตฯ 1A-Level คณิตฯ 2A-Level ฟิสิกส์A-Level เคมีA-Level อังกฤษ
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์20%20%25%25%10%
วิศวกรรมไฟฟ้า20%20%25%25%10%
วิศวกรรมอุตสาหการ20%20%25%25%10%
วิศวกรรมเครื่องกล20%20%25%25%10%
วิศวกรรมโยธา20%20%25%25%10%
วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม20%20%25%25%10%
วิศวกรรมวัสดุ20%20%25%25%10%
วิศวกรรมเคมี20%20%25%25%10%
วิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์20%20%25%25%10%
วิศวกรรมการผลิตอัจฉริยะและเครื่องมือขั้นสูง20%20%25%25%10%

จากตารางคณะวิศกรรมศาสตร์ของ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มีจุดสังเกตดังนี้

– ทุกสาขาวิศวกรรม มีเกณฑ์การคิดคะแนนเหมือนกันทั้งหมด

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สาขาวิศวะฯTGATTPAT3A-Level คณิตฯ 1A-Level คณิตฯ 2A-Level ฟิสิกส์A-Level เคมีA-Level อังกฤษ
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์20%40%20%20%
วิศวกรรมอุตสาหการ20%30%20%20%10%
วิศวกรรมโยธา20%30%20%20%10%
วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม20%30%20%20%10%
วิศวกรรมวัสดุ20%30%20%20%10%
วิศวกรรมนิวเคลียร์และรังสี20%30%20%20%10%
วิศวกรรมสำรวจ20%40%20%20%
วิศวกรรมทรัพยากรธรณี20%30%20%20%10%

จากตารางคณะวิศกรรมศาสตร์ของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีจุดสังเกตดังนี้
– แม้ว่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ของ จุฬาฯ จะมีหลากหลายสาขา แต่จะเปิดรับในรอบ Admission เพียงไม่กี่สาขาเท่านั้น

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

สาขาวิศวะฯTGATTPAT3A-Level คณิตฯ 1A-Level คณิตฯ 2A-Level ฟิสิกส์A-Level เคมีA-Level อังกฤษ
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์20%45%20%15%
วิศวกรรมไฟฟ้า40% (TGAT1 และ TGAT2)20%20%20%
วิศวกรรมอุตสาหการ20%30%30%20%
วิศวกรรมเครื่องกล40% (TGAT1 และ TGAT2)20%20%20%
วิศวกรรมโยธา40% (TGAT1 และ TGAT2)20%20%20%
วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม25% (TGAT1)25%25%25%
วิศวกรรมวัสดุ30% (TGAT1)30%20%20%
วิศวกรรมเคมี20% (TGAT1)30%25%25%
วิศวกรรมการบินและอวกาศ25% (TGAT1)25%25%25%
วิศวกรรมสำรวจและสารสนเทศภูมิศาสตร์25% (TGAT1)25%25%25%

จากตารางคณะวิศกรรมศาสตร์ของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีจุดสังเกตดังนี้

– ในบางสาขาวิศวกรรม อาจมีเกณฑ์การคิดคะแนน TGAT เพียงบางพาร์ตเท่านั้น

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สาขาวิศวะฯTGATTPAT3A-Level คณิตฯ 1A-Level คณิตฯ 2A-Level ฟิสิกส์A-Level เคมีA-Level อังกฤษ
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์15% (TGAT1)25%35%25%
วิศวกรรมไฟฟ้า15% (TGAT1)25%35%25%
วิศวกรรมอุตสาหการ10% (TGAT1)20%30%30%10%
วิศวกรรมเครื่องกล15% (TGAT1)25%35%25%
วิศวกรรมโยธา15% (TGAT1)25%35%25%
วิศวกรรมยานยนต์และระบบอัตโนมัติ20% (TGAT1)30%25%25%
วิศวกรรมซอฟต์แวร์15% (TGAT1)25%30%30%
วิศวกรรมเคมี10% (TGAT1)20%30%30%10%

จากตารางคณะวิศกรรมศาสตร์ของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีจุดสังเกตดังนี้
– ทุกสาขาวิศวกรรม มีเกณฑ์การคิดคะแนน TGAT เฉพาะพาร์ตภาษาอังกฤษเท่านั้น

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สาขาวิศวะฯTGATTPAT3A-Level คณิตฯ 1A-Level คณิตฯ 2A-Level ฟิสิกส์A-Level เคมีA-Level อังกฤษ
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์20%40%20%20%
วิศวกรรมไฟฟ้า20%40%20%20%
วิศวกรรมอุตสาหการ20%40%20%20%
วิศวกรรมเครื่องกล20%40%20%20%
วิศวกรรมโยธา20%40%20%20%
วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม20%40%20%20%
วิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์20%40%20%20%
วิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม20%40%20%20%
วิศวกรรมบูรณาการ20%40%20%20%

จากตารางคณะวิศกรรมศาสตร์ของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีจุดสังเกตดังนี้

– ทุกสาขาวิศวกรรม มีเกณฑ์การคิดคะแนนเหมือนกันทั้งหมด

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ มหาวิทยาลัยมหิดล

สาขาวิศวะฯTGATTPAT3A-Level คณิตฯ 1A-Level วิทย์ฯA-Level ฟิสิกส์A-Level เคมีA-Level อังกฤษ
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์25%25%25%25%
วิศวกรรมไฟฟ้า30%30%30%10%
วิศวกรรมอุตสาหการ16.5%17.5%16.5%16.5%16.5%16.5%
วิศวกรรมเครื่องกล20%30%25%25%
วิศวกรรมโยธา30%30%30%10%
วิศวกรรมเคมี30%20%20%20%10%
วิศวกรรมชีวการแพทย์30%15%15%15%25%

จากตารางคณะวิศกรรมศาสตร์ของ มหาวิทยาลัยมหิดล มีจุดสังเกตดังนี้
– สาขาวิศวกรรมส่วนใหญ่ ไม่ใช้คะแนน TGAT มีเพียงบางสาขาเท่านั้นที่ใช้ TGAT

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

สาขาวิศวะฯTGATTPAT3A-Level คณิตฯ 1A-Level คณิตฯ 2A-Level ฟิสิกส์A-Level เคมีA-Level อังกฤษ
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์20%30%25%25%
วิศวกรรมไฟฟ้า20%35%35%10%
วิศวกรรมอุตสาหการ20%30%25%25%
วิศวกรรมเครื่องกล20%30%30%20%
วิศวกรรมโยธา20%35%35%10%
วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม20%30%30%20%
วิศวกรรมโลจิสติกส์ (หลักสูตรนานาชาติ)20%30%20%30%
วิศวกรรมเคมี20%30%30%20%
วิศวกรรมโทรคมนาคม (หลักสูตรนานาชาติ)10%30%30%30%
วิศวกรรมระบบอิเล็กทรอนิกส์20%30%30%20%

จากตารางคณะวิศกรรมศาสตร์ของ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีจุดสังเกตดังนี้

– ทุกสาขาวิศวกรรม ไม่ใช้คะแนน TGAT เลย

เกณฑ์การคิดคะแนนวิศวะฯ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

สาขาวิศวะฯTGATTPAT3A-Level คณิตฯ 1A-Level คณิตฯ 2A-Level ฟิสิกส์A-Level เคมีA-Level อังกฤษ
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์20%30%25%25%
วิศวกรรมไฟฟ้า20%30%25%25%
วิศวกรรมอุตสาหการ20%30%25%25%
วิศวกรรมเครื่องกล20%30%20%30%
วิศวกรรมโยธา20%30%20%30%
วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม20%30%20%10%20%
วิศวกรรมโลจิสติกส์ (หลักสูตร 2 ภาษา)20%30%25%25%
วิศวกรรมเคมี20%30%20%10%20%
วิศวกรรมชีวการแพทย์20%30%25%25%
วิศวกรรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (หลักสูตรนานาชาติ)20%30%25%25%

จากตารางคณะวิศกรรมศาสตร์ของ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีจุดสังเกตดังนี้

– มศว มีสาขาวิศวกรรมที่ค่อนข้างหลากหลาย

คอร์สแนะนำสอบติดวิศวะ

ฟิสิกส์ TPAT3

20 Videos

หลังจากน้อง ๆ ได้รู้แล้วว่าจะเรียนวิศวะฯ ต้องสอบอะไรบ้าง สำหรับ TCAS นี้ หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ วางแผนอ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น และบอกเลยว่าคณะวิศวกรรมศา่สตร์ ต้องใช้คะแนนสอบค่อนข้างสูง น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์สที่จะช่วยให้น้อง ๆ สอบติดวิศวะฯ ตามแผนที่วางไว้ ดังนี้

1. คอร์ส TPAT3 ความถนัดด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์    
    ติวเข้มเนื้อหาเตรียมสอบ TPAT3 ติวสอบวิศวะ ที่โรงเรียนไม่เคยสอน กระชับ ตรงประเด็น 

2. คอร์ส TGAT วิชาวัดความถนัดทั่วไป
    ติวสอบ TGAT ครบจบทั้ง 3 พาร์ต ในคอร์สเดียว ติวกับกูรูขั้นเทพ ครบทั้งเนื้อหา แนวโจทย์ และเทคนิคเพิ่มคะแนนทั้ง 3 พาร์ต

3. คอร์สฟิสิกส์ A-Level TCAS
    ติวเข้มพิชิต ฟิสิกส์ A-Level TCAS ที่คุ้มค่าที่สุด อัพเดทล่าสุด กระชับ ตรงประเด็น

4. คอร์สฟิสิกส์ TCAS ติดอาวุธลับ UpScore
   ตะลุยโจทย์ข้อสอบฟิสิกส์ A-Level สรุปสูตรที่ใช้สอบ พร้อมเทคนิคเพิ่มคะแนนให้ได้มากที่สุด

5. คอร์ส คณิตศาสตร์ A-Level (เลขหลัก (พื้นฐาน) + เลขเสริม (เพิ่มเติม))
ติวเข้มเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย เสกโจทย์ยากให้ง่าย เพิ่มคะแนนสอบ A-Level คณิตศาสตร์ 

6. คอร์สคณิตศาสตร์ TCAS ติดอาวุธลับ UpScore
   ตะลุยโจทย์ข้อสอบคณิตศาสตร์ A-Level สอนเนื้อๆ เน้นๆ พร้อมเทคนิคเพิ่มคะแนนในเวลาจำกัด

7. คอร์สเคมี A-Level TCAS
ติวเข้มเคมี A-Level เนื้อหาเน้น ๆ เจาะลึกพร้อมเคล็ดลับการทำโจทย์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้

8. คอร์สเคมี TCAS ติดอาวุธลับ UpScore
ตะลุยโจทย์คมี A-Level เน้นจุดออกสอบบ่อย จุดผิดบ่อย พร้อมเทคนิคเพิ่มคะแนนในห้องสอบ

9. คอร์สภาษาอังกฤษ A-Level
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ A-Level ที่ครบถ้วน ครอบคลุม ตรงตามโครงสร้างข้อสอบ ภาษาอังกฤษ A-Level ที่สุด

10. คอร์สคณิตศาสตร์ 2 A-Level
คอร์ส คณิตศาสตร์ 2 A-Level ติว สอบ เลขหลัก (พื้นฐาน) ครบทุกบทในคอร์สเดียว

คอร์สทั้งหมดที่พี่ PANYA นำมาแนะนำ เป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

วิศวะ มีกี่สาขาอะไรบ้าง?

รวมมาให้แล้ว! คะแนนขั้นต่ำวิศวะฯ มหาวิทยาลัยดังทั่วประเทศไทย

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

TGAT คืออะไร สอบอะไรบ้าง เตรียมตัวอย่างไร เน้นเรื่องไหนดี สิ่งที่ #DEK68 ต้องรู้

PANYA SOCIETY

TGAT คืออะไร สอบอะไรบ้าง เตรียมตัวอย่างไร เน้นเรื่องไหนดี สิ่งที่ #DEK68 ต้องรู้

TGAT คืออะไร

ทำความรู้จัก TGAT

สวัสดีครับน้อง ๆ #Dek68 ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TGAT นะครับ สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้จัก TGAT วันนี้พี่ Panya Society จะพาไปรู้จักกับ TGAT อย่างละเอียดในทุก ๆ มุม และจะแนะนำแผนการอ่านหนังสืออีกด้วย เพื่อช่วยน้อง ๆ #Dek68 ให้อ่านหนังสือได้ดีขึ้น ขอบอกเลยว่า #Dek68 ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน จำเป็นต้องรู้จัก TGAT เพราะเป็นวิชาที่สำคัญมาก ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

TGAT คืออะไร

ในการจะสมัครเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย โดยทั่วไปจะต้องสมัครผ่านทางระบบ TCAS68 ซึ่งน้อง ๆ จะต้องสอบข้อสอบกลางจำนวนหลายชุด เพื่อใช้ยื่นในระบบ TCAS68 และหนึ่งในข้อสอบกลางที่น้องจะต้องสอบก็คือ ข้อสอบ TGAT

TGAT ย่อมาจาก Thailand General Aptitude Test หรือชื่อภาษาไทยคือ ความถนัดทั่วไป เป็นข้อสอบที่จะวัดความสามารถทั่วไปที่จะนำไปใช้เรียนต่อในมหาวิทยาลัย รวมไปถึงการทำงานต่อในอนาคต

เรื่องที่ข้อสอบ TGAT ต้องการทดสอบ ได้แก่
– การสื่อสารภาษาอังกฤษ
– การสื่อสารภาษาไทย
– คณิตศาสตร์พื้นฐานและความสัมพันธ์ของตัวเลข
– การมองมิติสัมพันธ์และความสัมพันธ์ของรูปภาพ
– การคิดโดยใช้หลักเหตุผล
– ความคิดเชิงนวัตกรรม
– การแก้ไขปัญหา
– การจัดการอารมณ์
– การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม

จะเห็นว่าทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่น้อง ๆ จำเป็นต้องมี เพื่อให้สามารถเรียนและทำงานต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อสอบ TGAT จึงจะทดสอบน้อง ๆ ในเรื่องเหล่านี้

TGAT สอบอะไรบ้าง

ข้อสอบ TGAT มีทั้งหมด 200 ข้อ คะแนนรวม 300 คะแนน ใช้เวลาทำข้อสอบรวม 3 ชั่วโมง
*** การคิดคะแนน TGAT จะปรับคะแนนเต็มเป็น 100 คะแนน โดยเอาคะแนนของ TGAT แต่ละส่วนมาเฉลี่ยกัน

TGAT แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

TGAT1 : การสื่อสารภาษาอังกฤษ

   จำนวนข้อ : 60 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 4 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ โดยจะเน้นไปที่การสื่อสารเป็นหลัก ลักษณะโจทย์จะเป็นบทสนนา การเติมเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ และการอ่านจับใจความ แบ่งเป็น 2 ด้าน

                       1.) ทักษะการพูด (Speaking Skill) 30 ข้อ

                       2.) ทักษะการอ่าน (Reading Skill) 30 ข้อ
  

TGAT2 : การคิดอย่างมีเหตุผล

   จำนวนข้อ : 80 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   รูปแบบข้อสอบ : ปรนัย 5 ตัวเลือก

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดทักษะการคิด การจินตนาการ การหาความสัมพันธ์ และวัดตรรกะ และด้วยจำนวนข้อสอบที่เยอะแต่กลับมีเวลาทำน้อย จึงถือเป็น speed test เช่นกัน ข้อสอบแบ่งเป็น 4 ด้าน

                       1.) ความสามารถทางภาษา 20 ข้อ

                       2.) ความสามารถทางตัวเลข 20 ข้อ

                       3.) ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ 20 ข้อ

                       4.) ความสามารถทางเหตุผล 20 ข้อ
  

TGAT3 : สมรรถนะการทำงาน

   จำนวนข้อ : 60 ข้อ

   คะแนนเต็ม : 100 คะแนน

   รูปแบบข้อสอบ :

                        แบบที่ 1 : ข้อสอบ 1 ข้อ มี 4 ตัวเลือก โดยเลือกตอบได้หลายตัวเลือก ให้เลือกฝนเฉพาะตัวเลือกที่ถูก
                                 – ฝนตัวเลือกที่ถูก จะได้ 0.25 คะแนน
                                 – ไม่ฝนตัวเลือกที่ผิด จะได้ 0.25 คะแนน

                        แบบที่ 2 : เป็นปรนัย 4 ตัวเลือก แต่ละตัวเลือกจะมีคะแนนไม่เท่ากัน โดยคะแนนจะลดหลั่นลงตามความถูกต้องของตัวเลือก ตั้งแต่ 0 – 1 คะแนน

   ลักษณะข้อสอบ : เป็นข้อสอบวัดความคิด ทัศนคติ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหาในการทำงาน การจัดการอารมณ์ และการอยู่รวมกับผู้อื่น โดยคำตอบไม่ได้มีผิดหรือถูกชัดเจน แต่จะให้คะแนนตามความเหมาะสมของตัวเลือกที่น้อง ๆ เลือก ซึ่งข้อสอบแบ่งเป็น 4 ด้าน

                       1.) การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม 15 ข้อ

                       2.) การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน 15 ข้อ

                       3.) การบริหารจัดการอารมณ์ 15 ข้อ

                       4.) การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม 15 ข้อ

มาถึงจุดนี้น้อง ๆ #Dek68 ก็จะได้รู้แล้วว่า TGAT ทั้ง 3 ส่วน สอบอะไรบ้างโดยคร่าว ๆ และพี่ Panya Society แนะนำว่าใครถนัดส่วนไหนก็ให้เน้นไปที่ส่วนนั้นให้ได้คะแนนเยอะที่สุด แต่ส่วนอื่น ๆ ที่อาจไม่ถนัดมากก็ไม่ควรทิ้ง เพราะ TGAT จะคิดคะแนนเฉลี่ยรวมทั้ง 3 ส่วน

TGAT เตรียมตัวอย่างไร เน้นเรื่องไหนดี

ก่อนที่จะไปเตรียมตัวทำข้อสอบ TGAT เรามาดูสถิติคะแนน TGAT ของปีที่ผ่านมากันก่อน เพื่อให้น้อง ๆ #Dek68 จะได้ตั้งเป้าหมายคะแนนได้ง่ายขึ้น

การกระจายตัวของคะแนน-tgat-ปี-67

จะเห็นว่าการทำคะแนน TGAT ได้เพิ่มขึ้นอีกเพียง 5 คะแนน จะทำให้น้อง ๆ ชนะคนอื่นได้อีกหลายหมื่นคน ดังนั้น มาวางแผนเตรียมตัวและตั้งเป้าหมายคะแนน TGAT กันเลย

เตรียมตัวสอบ TGAT อย่างไรดี?

1. ตั้งเป้าหมายคะแนน TGAT รวม
– ตั้งให้สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำของคณะที่น้องอยากเข้า เพื่อให้ TGAT ช่วยดึงคะแนนขึ้น

2. ตั้งเป้าหมายคะแนน TGAT แต่ละส่วน 
– ตั้งเป้าคะแนน TGAT1 TGAT2 TGAT3 ตามความถนัดของน้อง ๆ
– ให้คะแนนเฉลี่ยของทั้ง 3 ส่วน เป็นไปตามเป้าหมาย
– ดูสถิติคะแนน TGAT ของปีที่ผ่าน ๆ มา เพื่อให้ตั้งเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

สถิติคะแนน TGAT

จากตาราง จะเห็นว่า

TGAT1 มีคะแนนเฉลี่ยประมาณ 40 คะแนน
– ใครถนัดภาษาอังกฤษสามารถตั้งเป้า 80+ ได้เลย จะได้ช่วยดึงส่วนอื่นขึ้นเยอะ ๆ 
– ส่วนใครไม่ถนัดลองพยายามทำให้ได้ 60+ พี่เชื่อว่าน้องทำได้

TGAT2 มีคะแนนเฉลี่ยประมาณ 44 คะแนน
– ถ้าฝึกทำโจทย์เยอะ ๆ สามารถตั้งเป้า 65+ ได้เลย

TGAT3 มีคะแนนเฉลี่ยสูงมาก ประมาณ 63 คะแนน
– คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ ตั้งเป้า 70+ ไว้ก่อน 

3. เน้นอ่านให้ตรงจุด
เรามาดูกันว่า TGAT แต่ละส่วนควรเน้นเรื่องอะไรบ้าง

TGAT1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ
– เน้นพาร์ต speaking conversation
– อ่าน choice ก่อน เพื่อเดาประเภทคำถาม 

TGAT2 การคิดอย่างมีเหตุผล
– ภาษาไทย เน้นเก็บเเต้มพาร์ตการอ่าน 
– ด้านตัวเลข มิติสัมพันธ์ และเหตุผล เน้นการเจอโจทย์หลายแนว

TGAT3 สมรรถนะการทำงาน
– ใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาคำตอบ
– เน้นตอบตรงตามตำรา ไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัว

ตอนนี้น้อง ๆ ก็ได้ตั้งเป้าคะแนน และรู้จุดที่ควรเน้นในการสอบ TGAT แล้ว พี่ Panya Society หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ เตรียมตัวสอบ TGAT ได้ง่ายขึ้น

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ TGAT

สมัครสอบ TGAT อย่างไร?
ตอบ : ลงทะเบียนกับ MyTCAS ที่ https://student.mytcas.com และสมัครสอบ TGAT ได้จนถึงวันที่ 5 พ.ย. 67 

TGAT สอบวันไหน?
ตอบ : วันที่ 8 ธ.ค. 67 เวลา 9.00 น. – 12.00 น.

ตอนสอบ TGAT แจกข้อสอบพร้อมกันทั้ง 3 พาร์ตไหม?
ตอบ : ข้อสอบ TGAT แจกข้อสอบพร้อมกันทั้ง 3 พาร์ต น้องสามารถบริหารเวลาได้ตามความถนัด

ต้องสอบ TGAT ทุกคนไหม?
ตอบ : อาจมีบางคณะที่ไม่ใช้คะแนน TGAT แต่คณะส่วนใหญ่ต้องใช้ แนะนำให้สอบทุกคนครับ

ต้องสอบ TGAT ทั้ง 3 พาร์ตไหม?
ตอบ : อาจมีบางคณะใช้คะแนน TGAT แค่บางพาร์ต แต่คณะส่วนใหญ่ต้องใช้ครบทั้ง 3 พาร์ต แนะนำให้สอบครบทั้ง 3 พาร์ตครับ

TGAT ต้องไปสอบที่ไหน?
ตอบ : ตอนที่น้องสมัครสอบ TGAT จะมีให้เลือกสนามสอบได้ 3 อันดับ ตามที่น้องแต่ละคนสะดวกครับ

TGAT สอบแบบกระดาษหรือแบบคอมพิวเตอร์?
ตอบ : มีให้เลือกสอบทั้ง 2 รูปแบบ น้องสามารถเลือกตามความถนัดได้เลยครับ

ใครสอบ TGAT ได้บ้าง?
ตอบ : จะสอบได้ต้องเป็นนักเรียนที่กำลังเรียนชั้น ม.6 หรือเทียบเท่าขึ้นไป น้อง ๆ ม.4-5 ยังสอบไม่ได้ครับ

TGAT ใช้ยื่นคณะอะไรได้บ้าง?
ตอบ : ใช้ยื่นได้แทบทุกคณะ มีเพียงบ้างคณะเท่านั้นที่ไม่ใช้คะแนน TGAT

แต่ละคณะใช้คะแนนกี่เปอร์เซ็นต์?
ตอบขึ้นอยู่กับแต่ละคณะ มีตั้งแต่ 10% จนไปถึง 90%

คะแนน TGAT อยู่ได้กี่ปี?
ตอบ : คะแนน TGAT มีอายุเพียง 1 ปี หากต้องการซิ่ว ต้องสอบใหม่ทุกปี

พี่ Panya Society หวังว่าคำถามเกี่ยวกับ TGAT เหล่านี้จะตรงใจน้อง ๆ นะครับ และใครที่มีคำถามเพิ่มเติมสามารถทักมาถามพี่ ๆ ได้ตลอดเวลาเลยครับ 

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับน้อง ๆ #Dek68 ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะช่วยให้น้อง ๆ ได้รู้จัก TGAT มากขึ้น เพื่อให้น้อง ๆ เตรียมตัวสอบ TGAT ได้ง่ายขึ้น และได้คะแนนตามเป้าหมายที่วางไว้กันนะครับ แต่พี่ ๆ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าข้อมูลและแผนการเตรียมตัวอ่านหนังสือนี้ เป็นการคาดการณ์จากตัวเลขค่าเฉลี่ยเท่านั้น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความถนัดของน้อง ๆ เอง และสำหรับน้อง ๆ คนที่ต้องเตรียมตัวสอบหลายวิชา อย่าลืมวางแผนเผื่อเวลาไว้สำหรับวิชาอื่นกันด้วยนะครับ

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้จัก TGAT และวางแผนเตรียมตัวอ่าน TGAT สำหรับ TCAS68 นี้หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ อ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น และหลายคณะต้องใช้คะแนนสอบค่อนข้างสูง น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส “TGAT วิชาวัดความถนัดทั่วไป (Thai General Aptitude Test) จาก PANYA SOCIETY” ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TGAT ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด มีเนื้อหาที่จำเป็นสำหรับสอบ TGAT ครบถ้วน พร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS68 จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

TCAS คืออะไร

แผนการอ่านฟิสิกส์

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE:

อ่านหนังสือไม่เข้าหัว หาผู้ช่วยเตรียมสอบ TCAS

PANYA SOCIETY

อ่านหนังสือไม่เข้าหัว หาผู้ช่วยเตรียมสอบ TCAS

อ่านหนังสือไม่เข้าหัว หาผู้ช่วยเตรียมสอบ TCAS

ผู้ช่วยเตรียมสอบ TCAS

สวัสดีครับน้อง ๆ ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS นะครับ โดยวันนี้จะมาแนะนำผู้ช่วยเตรียมสอบ TCAS กันนะครับ พี่ Panya Society ขอบอกเลยว่า ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ใครที่อ่านหนังสือเองไม่เข้าใจ ควรจะหาผู้ช่วยให้เราอ่านหนังสือได้เข้าใจมากขึ้น เพื่อให้พร้อมสอบได้ทัน ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

1. เพื่อนที่เรียนเก่ง

น้อง ๆ คนไหนที่ยังอ่านหนังสือเองไม่ค่อยเข้าใจ ถ้าน้อง ๆ มีเพื่อนที่เรียนเก่งมาก ๆ และเพื่อนคนนั้นพร้อมที่จะสอนเรา ลองไปขออ่านหนังสือพร้อมกับเพื่อนคนนั้นดู ถ้าเรามีข้อสงสัยจะได้ถามเพื่อนได้ตลอดเวลา การติวหนังสือกับเพื่อนมีข้อดีดังนี้

  • ได้เห็นวิธีการอ่านหนังสือของเพื่อนที่เรียนเก่ง ๆ
  • เพื่อนก็กำลังเตรียมสอบเหมือนกัน จึงมักจะมีคำแนะนำหรือเทคนิคที่ดีในการเตรียมสอบ
  • เพื่อนมักจะมีเวลาว่างเท่า ๆ กับเรา และมีโอกาสที่จะว่างตรงกันกับเรามาก
  • การอ่านหนังสือกับเพื่อน จะมีความเป็นกันเอง ไม่กดดัน


2. รุ่นพี่ที่รู้จัก

ถ้าน้อง ๆ มีเป้าหมายแล้วว่าอยากจะเข้าคณะอะไร และมีรุ่นพี่ที่รู้จักกำลังเรียนอยู่ในคณะที่น้องอยากเข้า ลองขอให้รุ่นพี่คนนั้นมาช่วยติว เพื่อที่จะเตรียมสอบเข้าคณะนั้นตามกันไป ข้อดีของการติวหนังสือกับรุ่นพี่มีดังนี้

  • มั่นใจได้ว่ารุ่นพี่ จะมีเทคนิคเตรียมสอบที่ดี เพราะเขาสอบติดในคณะที่เราอยากเข้าแล้ว
  • รุ่นพี่จะมีประสบการณ์ ทั้งในการเตรียมสอบและการทำข้อสอบจริง ซึ่งเราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของรุ่นพี่ได้
  • รุ่นพี่จะรู้แนวข้อสอบ และสามารถสอนโดยเน้นจุดที่สำคัญได้ค่อนข้างแม่นยำ 


3. ครูที่โรงเรียน

เมื่อน้อง ๆ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาหรือโจทย์ต่าง ๆ สามารถเดินเข้าไปถามคุณครูของวิชานั้น ๆ ได้เลย ถึงแม้น้อง ๆ หลายคนอาจจะมองข้ามคุณครูไป แต่พี่ Panya Society เชื่อว่ายังมีครูอีกหลายคนที่พร้อมจะตอบคำถามของนักเรียนที่เขามาหาเสมอ ข้อดีของการให้ครูช่วยติวมีดังนี้

  • คุณครูมีเทคนิคการสอนที่ดี และอธิบายให้เราเข้าใจได้ง่าย
  • เนื่องจากครูอาจไม่ได้มีเวลามาก เราจะต้องรวบรวมคำถาม ไปถามในครั้งเดียว ทำให้เราได้สรุปความไม่เข้าใจของตัวเอง
  • ครูมีประสบการณ์ในการออกข้อสอบ จึงรู้ว่าจุดไหนเป็นจุดสำคัญที่นักเรียนควรรู้

4. หาที่เรียนพิเศษที่ดี

ในบางครั้งหากเพื่อนที่เรียนเก่ง ๆ อาจไม่สะดวกที่จะติวพร้อมกับเรา หรือน้อง ๆ ไม่ได้สนิทกับเพื่อนที่เรียนเก่ง และไม่มีรุ่นพี่ที่รู้จักอยู่คณะที่อยากเข้า และไม่สะดวกที่จะไปถามคุณครูที่โรงเรียนบ่อย ๆ ก็ยังมีผู้ช่วยอยู่อีกที่หนึ่ง ที่พร้อมจะติวให้เราตลอดเวลา นั่นก็คือ การเรียนพิเศษออนไลน์ ในสถาบันที่ดี พี่ Panya Society พร้อมติวให้น้อง ๆ ได้ทันทีเลย ข้อดีของการเรียนพิเศษออนไลน์มีดังนี้

  • เรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตามเวลาที่น้อง ๆ สะดวก
  • เรียนได้ทุกที่ ไม่ต้องเดินทางไปเรียนที่สถาบัน หรือจะดูบนรถระหว่างกำลังเดินทางไปทำธุระอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน
  • ถ้ายังไม่เข้าใจ สามารถทบทวนบทเรียนซ้ำได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
  • สามารถถามคำถามได้ตลอดเวลา ผ่านทางแชท พี่ ๆ พร้อมตอบคำถามตลอดเวลา
  • คอร์สมีการอัพเดทให้เป็นปัจจุบันตลอดเวลา สามารถเรียนเนื้อหาที่อัพเดทได้ทันที ไม่ต้องสมัครซ้ำ
  • ประหยัดทั้ง เวลา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าเดินทาง เป็นต้น เพราะอยู่บ้านเราไม่เสียตัง

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะช่วยให้น้อง ๆ เตรียมสอบกันได้ดียิ่งขึ้น แต่พี่ ๆ ต้องของบอกไว้ก่อนว่า ผู้ช่วยที่นำมาแนะนำนี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีผู้ช่วยอื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยน้อง ๆ ที่ยังอ่านหนังสือเองไม่เข้าใจ น้อง ๆ สามารถหาผู้ช่วยอื่นได้ตามความถนัดของน้อง ๆ แต่ละคนครับ

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้จักผู้ช่วยเตรียมสอบ TCAS แล้ว พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส “TCAS ทั้ง 6 วิชาจาก PANYA SOCIETY” ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

TCAS

48 Videos

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

7 เทคนิคตะลุยโจทย์

กลับหน้าบทความหลัก

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

TAG :

SHARE:

7 เทคนิคตะลุยโจทย์ เตรียมสอบ TCAS

PANYA SOCIETY

7 เทคนิคตะลุยโจทย์ เตรียมสอบ TCAS

7 เทคนิคตะลุยฝึกเทคนิคทำข้อสอบ TCAS

สวัสดีครับน้อง ๆ ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS นะครับ หลังจากที่น้อง ๆ เก็บเนื้อหาครบแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะตะลุยโจทย์ เพื่อทดสอบความรู้และการทำโจทย์ และยังได้เทคนิคทำข้อสอบด้วย โดยวันนี้จะมาแนะนำ 7 เทคนิคตะลุยโจทย์เตรียมสอบ TCAS กันนะครับ พี่ Panya Society ขอบอกเลยว่า น้องที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน ควรต้องฝึกเทคนิคทำข้อสอบ TCAS เพื่อให้พร้อมสอบได้ทัน ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

1. ทำข้อสอบเก่าย้อนหลัง

ในการฝึกตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบมากที่สุด โจทย์ที่เหมาะแก่การนำมาตะลุยโจทย์มากที่สุดก็คือ ข้อสอบเก่าย้อนหลังของแต่ละวิชานั่นเอง ดังนั้นในช่วง 3 – 4 เดือนก่อนสอบ น้อง ๆ  จึงควรหาข้อสอบเก่าย้อนหลังประมาณ 3 – 5 พ.ศ. มาฝึกทำ ซึ่งการตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบเก่าย้อนหลัง มีข้อดีดังนี้

  • ได้รู้ขอบเขตเนื้อหาของข้อสอบ
  • ได้รู้ว่าข้อสอบเน้นออกหัวข้อไหน
  • ทำให้เริ่มจับแนวข้อสอบได้
  • ได้เห็นโจทย์ที่พลิกแพลงหลากหลาย
  • ถ้าเจอโจทย์แนวเดียวกันในข้อสอบจริง จะทำได้แน่นอน


2. ทำบรรยากาศให้เหมือนห้องสอบจริง และจับเวลาตามจริง

ในห้องสอบจริง มีการจำกัดเวลาในการทำข้อสอบไว้ชัดเจน ดังนั้นในการตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบ TCAS น้อง ๆ ควรจะต้องทำให้เหมือนกับกำลังนั่งสอบจริงให้ได้มากที่สุด โดยอาจจำลองสถานการณ์ตั้งแต่เริ่มเข้าห้องสอบ ดังนี้

  • ดื่มน้ำและเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเริ่มตะลุยโจทย์
  • นั่งตะลุยโจทย์บนโต๊ะและเก้าอี้ขนาดใกล้เคียงกับโต๊ะนักเรียน ไม่นอนทำ
  • พกอุปกรณ์ทำข้อสอบเหมือนเข้าห้องสอบจริง พกบัตรประชาชน ไม่พกกระเป๋าดินสอ ไม่ใส่นาฬิกา ไม่พกโทรศัพท์
  • จับเวลาทำข้อสอบตามเวลาจริงของการทำข้อสอบ TCAS และไม่หยุดจับเวลาแม้ว่าจะลุกไปเข้าห้องน้ำ หรือมีสิ่งรบกวน
  • ไม่ควรให้มีใครรบกวนระหว่างที่กำลังตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบ ควรแจ้งผู้ปกครองให้เข้าใจ
  • ในระหว่างการสอบจริง น้อง ๆ จะถูกผู้คุมสอบรบกวนให้เซ็นชื่อเข้าสอบหลังจากทำข้อสอบไปแล้วประมาณ 15 นาที ในการตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบ ก็ควรเผื่อเวลาสำหรับการถูกรบกวนให้เซ็นชื่อไว้ด้วย 


3. เลือกทำข้อง่ายก่อน

ในการทำข้อสอบจริงที่มีเวลาจำกัด จะต้องวางแผนการทำข้อสอบให้ดี เพื่อให้ทำข่้อสอบทันเวลาให้ได้มากที่สุด โดยส่วนมากวิชาที่จะทำไม่ทัน จะเป็นวิชาคำนวณ ซึ่งมีหลักการคร่าว ๆ ทริคทำข้อสอบเลือกข้อง่ายก่อนมีดังนี้

  • ไล่อ่านโจทย์ข้อที่โจทย์สั้น ๆ ก่อน หากอ่านจบข้อนั้นแล้ว คิดว่าทำได้ก็เริ่มทำทันที ข้อที่ไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน แล้วจึงไปไล่อ่านและทำข้อที่โจทย์ยาว ๆ
  • ถ้าเป็นวิชาที่มีทั้งทฤษฎีและคำนวณ (ฟิสิกส์ เคมี) ให้เลือกทำข้อทฤษฎีก่อน
  • ถ้าเป็นวิชาที่ต้องคำนวณทั้งหมด (คณิตศาสตร์) ให้เริ่มจากข้อที่ถามตรง ๆ ไม่ต้องวิเคราะห์โจทย์มาก

4. ซ้อม การฝน ข้อสอบจริง

การฝนคำตอบลงในกระดาษคำตอบจริง จะต้องใช้เวลามากกว่าการกาตัวเลือกลงไปในกระดาษคำถาม ดังนั้น นอกจากการทำบรรยายกาศให้เหมือนห้องสอบจริงแล้ว ในการตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบ น้อง ๆ จึงควรจะต้องฝึกการฝนให้คล่อง และรวดเร็วที่สุด เพื่อจะได้มีเวลาในการทำข้อสอบมากขึ้น และสิ่งที่ควรต้องระวังมากที่สุดก็คือการฝนผิดข้อ และฝนผิดต่อ ๆ กันไปเรื่อย ๆ ซึ่งหากรู้ตัวภายหลัง ต้องเสียเวลาลบและฝนใหม่นานมาก แต่หากไม่รู้ตัวเลยก็จะทำคะแนนที่ควรจะได้หายไปทั้งหมด โดยสามารถฝึกการฝนข้อสอบได้ดังนี้

  • ใช้กระดาษคำตอบ ให้เหมือนจริงมากที่สุด ซึ่งสามารถโหลดกระดาษคำตอบได้จาก
    กระดาษคำตอบ TGAT / TPAT 2 – 5
    กระดาษคำตอบ A – Level 
  • ฝนจากขอบวงกลมด้านนอกเข้ามาข้างใน โดยฝึกให้คล่องและเร็วที่สุด
  • ก่อนฝนทุกครั้งให้ดูเลขข้อที่จะฝน ให้ตรงกับเลขข้อของโจทย์ที่เราหาคำตอบมาได้
  • อย่าลืมฝนชุดข้อสอบ

5. ทำด้วยตัวเอง ไม่ดูเฉลย

ในการสอบจริงน้อง ๆ ไม่สามารถเปิดดูเนื้อหา ดูเฉลย หรือถามคนอื่นได้ ดังนั้น ในการตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบ จะต้องไม่โกงตัวเอง การทำด้วยตัวเองโดยไม่ดูเฉลยมีข้อดีดังนี้

  • ได้ฝึกคิด ฝึกวิเคราะห์โจทย์ ทำให้กระบวนการคิดของน้อง ๆ พัฒนาได้ดีขึ้น และอาจได้ทริคทำข้อสอบเพิ่มจากการทำโจทย์เยอะ ๆ อีกด้วย
  • ได้ฝึการคำนวณ ทำให้คิดเลขได้ไวขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการลดเวลาทำข้อสอบได้มาก 
  • ได้รู้จุดที่ผิดพลาดของตัวเอง ที่อาจโดนโจทย์หลอกทำให้ไม่ได้คะแนน ในการตะลุยฝึกเทคนิคทำข้อสอชุดต่อไปจะได้ไม่พลาดอีก
  • ได้รู้ว่าจุดไหนที่น้อง ๆ ยังทำไม่ได้ จะได้นำไปพัฒนาขึ้น ในการตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบชุดต่อไป
  • ได้รู้คะแนนสอบคร่าว ๆ ว่าตอนนี้ ทำได้ประมาณกี่คะแนน เผื่อใช้ประเมิณตัวเอง

6. อ่านทวนจุดที่ยังทำไม่ได้

หลังจากได้ลองทำข้อสอบด้วยตัวเองดูแล้ว ให้ทำการดูเฉลยแบบละเอียดในข้อที่ทำไม่ได้ และหากยังดูเฉลยไม่เข้าใจ แสดงว่า น้อง ๆ ยังไม่แม่นเนื้อหาส่วนนั้น จึงควรกลับไปทบทวนเนื้อหาส่วนนั้นให้เข้าใจ และนอกการทำได้หรือไม่ได้แล้ว ยังมีเรื่องของเวลาที่มีจำกัดในการทำโจทย์แต่ละข้อด้วย บางข้ออาจจะทำได้แต่ใช้เวลานานมากเกินไป ก็ควรต้องพิจารณาด้วยว่าควรปรับปรุงอย่างไร ดังนั้นในขณะที่ตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบ จะมีทริคทำข้อสอบดังนี้

  • วงข้อที่ทำไม่ได้ไว้ เพื่อจะได้กลับมาดูเฉลยอย่างละเอียด และกลับไปทบทวนเนื้อหาส่วนนั้นต่อไป
  • ดูเวลาที่ใช้ทำในแต่ละข้อ หากข้อไหนทำนานไปให้ เขียนกำกับไว้ว่า ใช้เวลาเกิน เพื่อที่จะกลับมาพิจารณาว่าเป็นเพราะสาเหตุใด

7. จดผลสอบเพื่อดูพัฒนาการ

ในการตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบแต่ละชุด ควรจดคะแนนไว้ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับการตะลุยโจทย์ครั้งต่อไป ว่าคะแนนของเราดีขึ้น หรือน้อยลงอย่างไร เพื่อจะได้มั่นใจว่าในการทำข้อสอบจริง จะได้คะแนนตามที่เราซ้อมมา ซึ่งพิจารณาได้ดังนี้

  • หากคะแนนในแต่ละชุดยังไม่เพิ่มขึ้น อาจต้องกลับไปทบทวนเนื้อหาให้แม่นขึ้น
  • หากคะแนนข้อสอบชุดหลัง ๆ ได้คะแนนมากพอแล้ว ก็สามารถไปตะลุยโจทย์ฝึกเทคนิคทำข้อสอบในวิชาอื่น ๆ ต่อไปได้

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะช่วยให้น้อง ๆ เตรียมสอบกันได้ดียิ่งขึ้น แต่พี่ ๆ ต้องของบอกไว้ก่อนว่า เทคนิคที่นำมาแนะนำนี้ เป็นเพียงแนวทางในการตะลุยโจทย์แบบหนึ่งเท่านั้น  น้อง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความถนัดของน้อง ๆ แต่ละคนครับ

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้รู้เทคนิคการตะลุยโจทย์ TCAS แล้ว จะเห็นว่า จะต้องมีข้อสอบย้อนหลัง และเฉลยแบบละเอียดทุกข้อ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส “UpScore TCAS ทั้ง 3 วิชาจาก PANYA SOCIETY” ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

💬 ปรึกษาแผนการเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ฟรี! คลิกเลย!

VDO ตัวอย่างการสอน

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥