PANYA SOCIETY

วางแผนอ่านหนังสือ TCAS68 วิชาคณิตศาสตร์เน้นบทไหนดี #DEK68

วางแผนอ่านหนังสือวิชาคณิตศาสตร์

สวัสดีครับน้อง ๆ #Dek68 ทุกคน วันนี้พี่ Panya Society กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความที่เกี่ยวกับ TCAS68 นะครับ หลังจากที่เราคนหาตัวตนเจอแล้วว่าอยากเข้าคณะอะไร เราก็จะมาวางแผนอ่านหนังสือ TCAS68 กันต่อเลย วันนี้พี่ Panya Society จะมาแนะนำแผนการอ่านหนังสือวิชาคณิตศาสตร์ เพื่อช่วยน้อง ๆ #Dek68 อ่านหนังสือได้ดีขึ้น ขอบอกเลยว่า #Dek68 ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคน จำเป็นวางแผนอ่านหนังสือให้ดี เพื่อให้ไม่รู้สึกว่าอ่านหนักเกินไป และพร้อมสอบมากยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!

สถิติออกสอบ A - Level คณิตศาสตร์ 1

ในการวางแผนอ่านหนังสือนั้น เราควรจะต้องรู้ว่าควรจะเน้นไปที่บทไหน วันนี้พี่ Panya Society จึงจะพาน้อง ๆ #Dek68 มาดูสถิติออกสอบ A – Level คณิตศาสตร์ 1 ว่าบทไหนออกเยอะหรือออกน้อยบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมสอบ TCAS68 ดังนี้ 

บทที่ออก 3 ข้อ ควรเน้นมาก ๆ คือ

  • ลำดับและอนุกรม
  • แคลคูลัสเบื้องต้น

บทที่ออก 2 ข้อ ควรเน้นปานกลาง คือ

  • เซต
  • ตรรกศาสตร์
  • ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม
  • เรขาคณิตวิเคราะห์และภาคตัดกรวย
  • ฟังก์ชันตรีโกณมิติ
  • เวกเตอร์
  • จำนวนเชิงซ้อน
  • หลักการนับเบื้องต้น
  • สถิติ
  • ตัวแปรสุ่มและการแจกแจงความน่าจะเป็น

บทที่ออก 1 ข้อ ควรเน้นไม่มาก คือ

  • จำนวนจริง
  • ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
  • เมทริกซ์
  • ความน่าจะเป็น

มาถึงตรงนี้ น้อง ๆ #Dek68 คงจะเห็นแล้วว่า บทไหนควรเน้นหรือไม่ควรเน้น แต่พี่ Panya Society ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า ถึงบางบทจะออกน้อย แต่ก็เป็นพื้นฐานในการนำไปใช้ต่อในบทอื่น ๆ ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเก็บเนื้อหาให้ได้ครบทุกบทนะครับ

คำนวณเวลาที่ต้องใช้อ่านทั้งหมด

ก่อนที่เราเริ่มอ่าน เรามาดูกันก่อนว่า วิชาคณิตศาสตร์มีเนื้อหาอะไรบ้าง และแต่ละบทจะต้องใช้เวลาอ่านมากหรือน้อยอย่างไร เพื่อจะได้วางแผนการอ่านได้ง่ายขึ้น

บทที่ 1 : เซต

จะเรียนเกี่ยวกับการจัดกลุ่มของสิ่งต่าง ๆ หรือตัวเลขที่เราสนใจ ถือเป็นพื้นฐานของวิชาคณิตศาสตร์อีกหลาย ๆ บท

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  ไม่ต้องมีพื้นฐานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 12 ชั่วโมง

บทที่ 2 : ตรรกศาสตร์

จะเรียนเกี่ยวกับการให้เหตุผล หาค่าความจริง และหาข้อสรุปของประโยคต่าง ๆ เป็นบทที่นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  ไม่ต้องมีพื้นฐานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 14 ชั่วโมง

บทที่ 3 : จำนวนจริง

จะเรียนเกี่ยวกับการจำแนกประเภทของตัวเลข สมบัติและการดำเนินการต่าง ๆ กับตัวเลขและพหุนาม เป็นอีกหนึ่งบทที่เป็นพื้นฐานสำคัญของอีกหลาย ๆ บท

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  ไม่ต้องมีพื้นฐานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 12 ชั่วโมง

บทที่ 4 : ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน

จะเรียนเกี่ยวกับการดูความสัมพันธ์ของเซต 2 เซต พิจารณาว่าเป็นฟังก์ชันหรือไม่ รวมไปถึงการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นบทที่เป็นพื้นฐานสำคัญของคณิตศาสตร์อีกเช่นกัน

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  เซต

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 30 ชั่วโมง

บทที่ 5 : ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทึม

จะเรียนเกี่ยวกับเลขยกกำลัง และได้รู้จักกับลอการิทึม ซึ่งเป็นฟังก์ชันผกผันอีกด้วย

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  จำนวนจริง, ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน 

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 25 ชั่วโมง

บทที่ 6 : เรขาคณิตวิเคราะห์และภาคตัดกรวย

จะเรียนเกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟลักษณะต่าง ๆ ทั้งเส้นตรงและเส้นโค้ง และได้รู้สมการของกราฟนั้น ๆ อีกด้วย 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  จำนวนจริง

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 35 ชั่วโมง

บทที่ 7 : ฟังก์ชันตรีโกณมิติ

จะเรียนเกี่ยวกับการวิเคราะห์รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก และกำหนดฟังก์ชันใหม่ที่เกี่ยวข้องกับอัตราส่วนของความยาวด้านของสามเหลี่ยมมุมฉาก รวมถึงนำฟังก์ชันนั้นไปประยุกต์ใช้ 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี :  จำนวนจริง, ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน, เรขาคณิตวิเคราะห์และภาคตัดกรวย

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 14 ชั่วโมง

บทที่ 8 : เมทริกซ์

จะเรียนเกี่ยวกับการจัดรูปแบบการคิดแบบใหม่ มีประโยชน์ในการนำไปแก้ระบบสมการได้ 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : ไม่ต้องมีพื้นฐานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 18 ชั่วโมง

บทที่ 9 : เวกเตอร์

จะเรียนเกี่ยวกับปริมาณรูปแบบใหม่ที่มีทั้งขนาดและทิศทาง ซึ่งนำมาช่วยในการหาพื้นที่และปริมาตรของรูปทรงต่าง ๆ ได้ 

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : เมทริกซ์, เรขาคณิตวิเคราะห์และภาคตัดกรวย

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 5 ชั่วโมง

บทที่ 10 : จำนวนเชิงซ้อน

จะเรียนเกี่ยวกับจำนวนที่อาจหาค่าออกมาเป็นจำนวนจริงตรง ๆ ไม่ได้ แต่หากนำมาดำเนินการกันแล้ว อาจได้ค่าเป็นจำนวนจริง

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : จำนวนจริง, ฟังก์ชันตรีโกณมิติ

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 12 ชั่วโมง

บทที่ 11 : หลักการนับเบื้องต้น

จะเรียนเกี่ยวกับวิธีการนับจำนวนต่าง ๆ ที่อาจมีได้หลายกรณี ให้นับได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : ไม่ต้องมีพื้นฐานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 10 ชั่วโมง

บทที่ 12 : ความน่าจะเป็น

จะเรียนเกี่ยวกับการหาความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เราสนใจ

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : หลักการนับเบื้องต้น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 4 ชั่วโมง

บทที่ 13 : ลำดับและอนุกรม

จะเรียนเกี่ยวกับการมองตัวเลขให้เป็นลำดับต่าง ๆ และการหาผลรวมของตัวเลขในลำดับนั้น ๆ และยังนำไปประยุกต์ใช้ในการคิดดอกเบี้ยทบต้นได้อีกด้วย

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : ไม่ต้องมีพื้นฐานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 24 ชั่วโมง

บทที่ 14 : แคลคูลัสเบื้องต้น

จะเรียนเกี่ยวกับการดูความต่อเนื่องของฟังก์ชัน ดูอัตราการเปลี่ยนแปลงของฟังก์ชันต่าง ๆ รวมไปถึงการหาฟังก์ชันจากอัตราการเปลี่ยนแปลงที่ให้มาอีกด้วย

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 30 ชั่วโมง

บทที่ 15 : สถิติ

จะเรียนเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ หาค่าที่จะเป็นตัวแทนของข้อมูลชุดนั้น ๆ และทำความเข้าใจลักษณะของข้อมูล เป็นอีกหนึ่งบทที่มีประโยชน์มาก ๆ ในชีวิตประจำวัน

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : ไม่ต้องมีพื้นฐานบทอื่น

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 35 ชั่วโมง

บทที่ 16 : ตัวแปรสุ่มและการแจกแจงความน่าจะเป็น

จะเรียนเกี่ยวกับการมองข้อมูลในอีกรูปแบบหนึ่ง และดูความน่าจะเป็นที่ได้ข้อมูลค่าหนึ่ง เมื่อสุ่มหยิบข้อมูลออกมา

พื้นฐานบทอื่นที่ต้องมี : ความน่าจะเป็น, สถิติ

เวลาที่ควรใช้อ่าน : ประมาณ 10 ชั่วโมง

มาถึงจุดนี้น้อง ๆ #Dek68 ก็จะได้รู้แล้วว่า วิชาคณิตศาสตร์ ทั้ง 16 บทนี้ เรียนเกี่ยวกับอะไรโดยคร่าว ๆ และจุดที่พี่ Panya Society อยากให้น้องสนใจมากที่สุด ก็คือ เวลาที่ควรใช้อ่าน ซึ่งทั้ง 16 บทนี้ ใช้เวลาอ่านรวมทั้งหมดประมาณ 290 ชั่วโมง

วางแผนการเก็บคะแนน

จากผลคะแนน TCAS ของปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าบางคณะต้องได้คะแนน TCAS สูงมาก ๆ จึงจะสอบติด และวิชาคณิตศาสตร์ก็ถือเป็นวิชาสำคัญที่หลาย ๆ คณะเลือกใช้เป็นเกณฑ์ในการคิดคะแนน และ A – Level คณิตศาสตร์ ก็มีสัดส่วนคะแนนค่อนข้างสูงในหลาย ๆ คณะ ดังนั้น น้อง ๆ  ควรตั้งเป้าหมายให้ได้ 70 คะแนนขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่า จะสามารถเข้าคณะที่ต้องการได้อย่างแน่นอน

พี่ Panya Society ขอแบ่งวิชาคณิตศาสตร์ ออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อให้น้อง ๆ ที่มีความถนัดในกลุ่มเนื้อหาต่าง ๆ ได้เลือกอ่านตามความถนัดของน้อง ๆ ดังนี้

1. บทพื้นฐาน

เป็นบทที่ไม่ได้ยากมาก และแนะนำให้น้อง ๆ ทุกคนควรเก็บคะแนนให้ได้ ดังนี้

1) เซต : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

2) ตรรกศาสตร์ : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

รวม ออกสอบ 4 ข้อ คิดเป็น 12 คะแนน ใช้เวลาอ่านประมาณ 26 ชั่วโมง

2. พีชคณิต

เป็นเนื้อหาที่เหมาะกับน้อง ๆ ที่ถนัดในการคำนวนตัวเลข แก้สมการต่าง ๆ และครอบคลุมเนื้อหาส่วนใหญ่ของคณิตศาสตร์ จึงควรเก็บคะแนนในส่วนนี้ให้ได้เช่นกัน ได้แก่

1) จำนวนจริง : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

2) ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

3) ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทึม : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

4) จำนวนเชิงซ้อน : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

5) ลำดับและอนุกรม : ออกสอบ 3 ข้อ คิดเป็น 9 คะแนน

6) แคลคูลัสเบื้องต้น : ออกสอบ 3 ข้อ คิดเป็น 9 คะแนน

รวม ออกสอบ 12 ข้อ คิดเป็น 36 คะแนน ใช้เวลาอ่านประมาณ 133 ชั่วโมง

3. เรขาคณิต

เป็นเนื้อหาที่เหมาะกับน้อง ๆ ที่ถนัดในการมองรูปภาพและกราฟต่าง ๆ ได้แก่

1) เรขาคณิตวิเคราะห์และภาคตัดกรวย : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

2) ฟังก์ชันตรีโกณมิติ : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

3) เมทริกซ์ : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

4) เวกเตอร์ : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

รวม ออกสอบ 7 ข้อ คิดเป็น 21 คะแนน ใช้เวลาอ่านประมาณ 72 ชั่วโมง


4. ความน่าจะเป็น และสถิติ

เป็นเนื้อหาที่เหมาะกับน้อง ๆ ที่ถนัดในการนับจำนวนเหตุการณ์ต่าง ๆ และถนัดในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่

1) หลักการนับเบื้องต้น : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

2) ความน่าจะเป็น : ออกสอบ 1 ข้อ คิดเป็น 3 คะแนน

3) สถิติ : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

4) ตัวแปรสุ่มและการแจกแจงความน่าจะเป็น : ออกสอบ 2 ข้อ คิดเป็น 6 คะแนน

รวม ออกสอบ 7 ข้อ คิดเป็น 21 คะแนน ใช้เวลาอ่านประมาณ 59 ชั่วโมง

จาก 4 กลุ่มวิชานี้ น้อง ๆ ควรเลือกอ่าน

  • บทพื้นฐาน
  • พีชคณิต
  • เลือกอ่าน เรขาคณิต หรือ ความน่าจะเป็นและสถิติ ตามความถนัดของน้อง ๆ

เพียงเท่านี้ก็จะได้คะแนนประมาณ 70 คะแนน ได้ไม่ยากมาก 

และหากยังมีเวลาเหลือก็ควรอ่านอีกกลุ่มเนื้อหาที่เหลือไปด้วย เพื่อให้ได้คะแนนเพิ่มขึ้นไปอีกครับ

วางแผนแบ่งเวลาอ่านคณิตศาสตร์

สำหรับน้อง ๆ #Dek68 พี่ Panya Society อยากให้น้อง ๆ เผื่อเวลาไว้ฝึกทำข้อสอบจริง อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนสอบ ดังนั้น น้อง ๆ จะมีเวลาเก็บเนื้อหาทั้งหมดถึงสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ เท่านั้น

เราได้รู้แล้วว่า ควรต้องใช้เวลาอ่านเนื้อหาคณิตศาสตร์ทั้งหมดประมาณ 290 ชั่วโมง ซึ่งจริง ๆ แล้ว เนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์ไม่ได้มีเยอะมาก แต่ที่ต้องใช้เวลาในการอ่านเยอะ เพราะต้องฝึกทำแบบฝึกหัดเยอะ ๆ นั่นเองครับ

การแบ่งเวลาอ่านหนังสือในแต่ละวัน จึงขึ้นอยู่กับว่า น้องเหลือเวลาอ่านอีกกี่วัน

เริ่มอ่านเดือน มิถุนายน (ช่วงเปิดเทอม 1)

เหลือเวลาอ่าน : 9 เดือน

เนื้อหาที่ควรอ่าน : ทุกบท

ควรอ่านวันละ : 1 ชั่วโมง

เริ่มอ่านเดือน ตุลาคม (ช่วงปิดเทอมเล็ก)

เหลือเวลาอ่าน : 5 เดือน

เนื้อหาที่ควรอ่าน : ทุกบท

ควรอ่านวันละ : 2 ชั่วโมง


เริ่มอ่านเดือน ธันวาคม

เหลือเวลาอ่าน : 3 เดือน

เนื้อหาที่ควรอ่าน : อ่าน 3 กลุ่มเนื้อหาที่ถนัด

ควรอ่านวันละ : 3 ชั่วโมง


เริ่มอ่านเดือน มกราคม 

เหลือเวลาอ่าน : 2 เดือน

เนื้อหาที่ควรอ่าน : อ่าน 3 กลุ่มเนื้อหาที่ถนัด

ควรอ่านวันละ : 4 ชั่วโมง

พี่ Panya Society ไม่แนะนำให้น้อง ๆ อ่านเกินวันละ 4 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้สมองล้า และอ่านได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ควรเริ่มอ่านให้เร็วที่สุด เพื่อให้ได้ทยอยอ่านวันละนิด ไม่หักโหมมาก และลดความกดดันในการอ่านได้อีกด้วย

พูดคุยหลังอ่าน

เป็นยังไงกันบ้างครับ #Dek68 ทุกคน หวังว่าพี่ ๆ Panya Society จะช่วยให้น้อง ๆ ได้วางแผนในการอ่านหนังสือวิชาคณิตศาสตร์ เพื่อให้น้อง ๆ ได้คะแนนตามที่หวังกันนะครับ แต่พี่ ๆ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าแผนการอ่านหนังสือนี้ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความถนัดของน้อง ๆ เอง และสำหรับน้อง ๆ คนที่ต้องเตรียมตัวสอบหลายวิชา อย่าลืมวางแผนเผื่อเวลาไว้สำหรับวิชาอื่นกันด้วยนะครับ

หลังจากน้อง ๆ ทุกคนได้วางแผนการอ่านคณิตศาสตร์ สำหรับ TCAS68 นี้หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ อ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น และจะเห็นว่าหลายคณะ ต้องใช้คะแนนสอบค่อนข้างสูง น้อง ๆ ทุกคนควรจะรีบเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น พี่ PANYA ขอแนะนำคอร์ส “คณิตศาสตร์ A – Level TCAS68 จาก PANYA SOCIETY” ซึ่งเป็นคอร์ส เตรียมตัวสอบ TCAS68 ฉบับสมบูรณ์แบบ ที่ Update ล่าสุด ได้ทั้งทบทวนเนื้อหา ม.4-5-6 ไปพร้อมกับเก็งข้อสอบแนวรูปแบบใหม่ ฝึกทำข้อสอบเพียบ ทบทวนเต็มที่ เก็งข้อสอบแม่นยำ พร้อมทำโจทย์แนวใหม่ ไม่ตกเทรนด์ พร้อมกับโค้ชผู้ช่วยส่วนตัวที่ถาม-ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ไร้กังวล ติวกับ PANYA SOCIETY ข้อสอบ TCAS68 จะเปลี่ยนไปแค่ไหน พี่ ๆ จะตามติดพัฒนาคอร์สไปพร้อมกับ Test Blueprint ใหม่ล่าสุด ไม่พลาดแน่นอน!!!

VDO ตัวอย่างการสอน

🔥ติวเตอร์คนเก่ง🔥

อยากเรียนวิศวะ สอบอะไรบ้าง

เรียนสนุก ทำโจทย์คล่อง สอบให้ติด

: คอร์สแนะนำ :

SHARE: